ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (16 พ.ย.) ตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค หลังจากที่บริษัทเจซี เพนนี และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ อันเป็นผลมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ทรุดลงอย่างหนัก
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 1% ภายหลังจากที่บริษัทเจซี เพนนี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายงานว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปรับตัวลดลง 9% จากยอดขายที่ซบเซา รวมทั้งคาดว่าจะปรับตัวลดลงในไตรมาสที่สี่ด้วยเช่นกัน ขณะที่จอห์น สแตมฟ์ ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐร่วงลงหนักที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลดลง 36.63 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 3,440.96 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,405.86 และ 3,453.98 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.8 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ดัชนีเตรทส์ไทม์อาจดีดตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนมีแนวโน้มส่งแรงซื้อทำกำไรเพิ่มขึ้น
"นักลงทุนไม่ควรเร่งรีบตอนนี้ และควรระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากตลาดได้เข้าสู่ภาวะปรับฐาน" นาจิบ จาร์ฮอม นักวิเคราะห์จากฟราเซอร์ ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
ทั้งนี้ จาร์ฮมคาดการณ์ว่า ดัชนีจะพุ่งขึ้น 200-300 จุดในช่วงสิ้นปีนี้ หรือต้นปี 2551 อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงได้รับแรงหนุนอย่างดีจากผลประกอบการณ์จากบรรดาบริษัทต่างๆที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้ดัชนีเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 3,400 จุด
"นอกจากนี้ จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งนั้น ผมคิดว่าอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนอาจส่งแรงซื้อทำกำไรเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น" เขากล่าว
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในสิงคโปร์อาจเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความต้องการที่ลดลง โดยมีบ้านเพียง 135 หลังที่ถูกขายทางตอนกลางของสิงคโปร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในเดือนก.ย.ที่ 290 หลัง
ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์บิสิเนส ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจากโจนส์ แลง ลาซาลว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถขายบ้านจำนวน 550 หลัง ในพื้นที่นอกใจกลางเมืองและเขตชานเมืองในเดือนต.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในเดือนก.ย.ที่ขายได้ 239 หลัง
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลสิงคโปร์ไม่อนุญาตให้ผู้ซื้อบ้านผ่อนผันการจ่ายเงินขั้นต้นสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสาเหตุของการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงในวันนี้
โดยหุ้นแคปิตอล แลนด์ ลดลง 15 เซนต์ หุ้นซิตี้ ดีเวลอปเม้นท์ ลดลง 10 เซนต์ และหุ้นเคปเพล ลดลง 10 เซนต์
หุ้นกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการของธนาคารต่างๆจะเพิ่มขึ้น โดยหุ้นธนาคารยูโอบี เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ขยับขึ้น 5 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--