หุ้นกลุ่ม บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) วันนี้ปรับตัวลงบ้างจากช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นวิ่งอย่างร้อนแรง โดยเฉพาะหุ้น บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) ที่หันมาทำธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยท์จากเดือน ก.ค.64 ราคาหุ้นแกว่งอยู่ในช่วง 40-50 บาท พุ่งขึ้นกว่า 3 เท่ามามที่ 180 บาท(ณ วันที่ 18 ม.ค.65) ขณะที่หุ้น JAS เองเริ่มเห็นการเข้ามาเก็งกำไรตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค. 64 จนวานนี้ (ณ วันที่ 17 ม.ค.65)ทำนิวไฮที่ 4.08 บาท
ส่วนราคาหุ้น บมจ.โมโน เน็กซ์ (MONO) ก็มีแรงเก็งกำไรตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึง ราคากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ก็ปรับขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวถึงราคากลุ่ม JAS ว่ามีการเก็งกำไรอยู่ 2-3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นการขายธุรกิจทริปเปิ้ลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ให้กับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เพราะคาดการณ์กันว่า ADVANCE ต้องการเพิ่มพอร์ตธุรกิจบรอดแบนด์เพื่อให้สามารถแข่งขัน TRUE กับ DTAC หรือมีโอกาสที่ซื้อจาก JAS ทำให้ราคา JAS ปรับขึ้นไปมาก
ประเด็นถัดมา คาดว่าเป็นการเก็งธุรกิจ JTS ซึ่งเข้าสู่การทำเหมืองบิทคอยน์ ซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดของ JTS ใหญ่กว่า บ.แม่ JAS และอีกประเด็น อาจเก็งเรื่องผลประกอบการของ JAS หลังจากช่วงปลายปี 64 ได้ปรับนโยบายเกี่ยวกับอายุของสินทรัพย์ น่าจะนำไปสู่การปรับมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งหลังจากนี้ผลประกอบการน่าจะดีขึ้นที่ทำให้ค่าเสื่อมปรับลดลง
"คิดว่ามาจาก 3 เรื่อง ตลาดไม่รู้ว่ามาจากเรื่องไหน คิดว่า JAS มีความน่าสนใจ ถึงแม้จะมีการเก็งกำไร ธุรกิจก็ให้กระแสเงินสดได้ดี ดูในแง่การจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมาจ่าย 0.20-0.25 บาท จากราคาหุ้น 4 บาท ก็มีผลตอบแทน (Yield) 4-5% ก็ยังเล่นเก็งกำไรได้ ที่ Yield 5% ซึ่งช่วยประคอง downside"
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า JAS แจ้งข่าวระบุไม่ได้ดำเนินการหรือมีพัฒนาการเรื่องขายธุรกิจบรอดแบนด์ มองว่าข่าวดังกล่าวจะส่งผลเชิง sentiment ลบ ต่อราคาหุ้น JAS เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาหุ้น JAS ซื้อขายบนความคาดหวังเรื่องการขายธุรกิจบรอดแบนด์ TTTBB มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ราคาหุ้นค่อนข้างผันผวนตามกระแสข่าว
ทั้งนี้ หากเทียบเคียง deal การควบรวมกิจการระหว่าง TRUE กับ DTAC ประเมินราคาสูงสุดของ JAS ในกรณีที่เป็นไปตามกระแสข่าว อิง EV/EBITDA ประมาณ 7-8 เท่า คาดว่าราคาหุ้น JAS มีโอกาสปรับขึ้นไปซื้อขายในกรอบ 4-5 บาท
ตามปัจจัยพื้นฐาน JAS คงมุมมอง หากเป็นเรื่องการขายธุรกิจบรอดแบนด์มีจากตัวแปรสำคัญคือ ราคาซื้อขายที่ตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบกับ การที่ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ JAS ถูกขายเข้า JASIF และ TTTBB มีภาระต้องจ่ายค่าเช่าต่อปีกว่า 1 หมื่นล้านบาทให้กับกองทุนฯ ตามเงื่อนไขสัญญาเช่าระยะยาว รวมทั้งข้อตกลงระหว่างกองทุนฯ กับ JAS เกี่ยวกับสัดส่วนถือหุ้นใน TTTBB เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา
แนะนำ Neutral สำหรับ JAS (เป้าหมายที่ 3.20 บาท) ตามปัจจัยพื้นฐาน JAS คาดว่าผลการดำเนินงานจะขาดทุนในปี 65-66 จากรายได้ของธุรกิจหลักเติบโตไม่ทันกับผลกระทบของ TFRS 16 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับบริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพิ่มช่องทางหารายได้ ทำให้คาดว่าผลขาดทุนจะลดลงเป็น -1,075 ล้านบาทในปี 65 และ -359 ล้านบาทในปี 66 รวมทั้งมีฐานทุนที่ดีขึ้นเพื่อกลับมาจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง
ราคาปิด หุ้น 30 ก.ย.64 30 ธ.ค.64 17 ม.ค. 65 JAS 2.86 3.50 4.08 JTS 52.75 131.00 181.00 MONO 1.50 1.52 2.66 JASIF 10.00 10.30 10.70