นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การแข่งขันของ RWI ในปี 65 ในธุรกิจที่มีแข่งขันสูงบริษัทจะเน้นการลดต้นทุนทางตรงต่อหน่วย และลดต้นทุนขายและบริหารต่อหน่วย โดยเพิ่มความเร็วและปริมาณผลผลิตต่อเวลา และเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงเน้นเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการสินค้าวัตถุดิบให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ต้องมีการบริหารการจัดซื้อและจัดการระดับสต็อกวัตถุดิบให้อยู่ในระดับต่ำและสินค้าพร้อมส่งและบริหารลูกหนี้ให้อยู่ในระดับเหมาะสมเพื่อการบริหารสภาวะเงินสดให้สูงขึ้น และลดภาระดอกเบี้ย ส่วนการบริหารการขายและราคาสินค้าต้องเข้าถึงลูกค้าที่ใช้สินค้าหลากหลายตามกำลังการผลิตที่มีอยู่เพื่อลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและเครื่องจักร
สำหรับแนวโน้มธุรกิจลวดเหล็กในปี 65 บริษัทได้มีแผนธุรกิจที่จะเพิ่มการผลิตและขายอีกประมาณ 15% เพิ่มขึ้นจากปี 64 โดยมีแผนผลิตและขายเป้าหมายสูงกว่าในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา ส่วนกำไรก็วางเป้าเติบโตจากการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น คุณภาพสูงขึ้น และการขายที่เน้นครอบคลุมตลาดและจำนวนลูกค้าในทุกภาคมากขึ้น และมีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อตันและปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นตรงตามการขยายตลาด
นายเชิดศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือน ส.ค.64 ได้วางกลยุทธ์การแข่งขันแบบ Customer Centric และการบริหารของ RWI สถานะปัจจุบันผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 64 บริษัทมีรายได้จากการผลิตและการขาย 617.6 ล้านบาท ขยายตัว 47.7% จาก 418.0 ล้านบาทในปี 63 และมีรายได้จากกำไรการวัดมูลค่าการลงทุน และรายได้อื่นๆ 129.9 ล้านบาท ขยายตัว 140% จาก 54.1 ล้านบาทในปี 63
บริษัทมีกำไรรวมสุทธิ 166.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464% จาก 29.4 ล้านบาท ในรอบเวลาเดียวกันของปี 63 บริษัทมีกำไรต่อหุ้น 0.27 บาท เทียบกับ 0.05 บาท ในปี 2563 และเมื่อสิ้นสุดไตรมาส 3/64 บริษัทมีอัตราส่วนกำไรสุทธิ 26.5% (4.92% ปี 2563) ROA = 16% (4.5% ปี 2563) ROE = 18.8% (3.9% ปี 2563) Net Asset Value เท่ากับ 1.56 บาทต่อหุ้น
ด้านสภาพการแข่งขัน เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงพอสมควรโดยมี ผู้ผลิตลวดเหล็กหลักประมาณ 10-15 ราย เป็นตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากการขยายตัวของการก่อสร้าง มีลูกค้าธุรกิจ ประมาณ 300-400 ราย ประกอบด้วยผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตหลายประเภท บริษัทก่อสร้าง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพี้นฐาน ก่อสร้าง ขนาดใหญ่ และบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ