(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: พิษดาวโจนส์ทรุดฉุดคอมโพสิตปิดร่วง 63.63 จุด

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดตลาดดิ่งร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (8 พ.ย.) โดยดัชนีทรุดตัวลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 2,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความหวั่นวิตกต่อการปิดรูดลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา   
          อย่างไรก็ตาม ยังมีนักลงทุนบางส่วนคลายความกังวลจาการประกาศตรึงดอกเบี้ยของธนาคารกลางเกาหลีใต้ในวันนี้ท่ามกลางกระแสความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
          โดยตลาดปิดร่วงลงต่อเนื่องตามการปิดลบของตลาดหุ้นทั่วเอเชีย และหลังจากที่สัญญาการซื้อขายแบบอ็อพชั่น และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าครบกำหนดส่งมอบในวันนี้
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดร่วงลง 63.63 จุด หรือ 3.1% แตะที่ระดับ 1,979.56 จุด หลังจากเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,971.95 - 2,022.61 จุด
           ปาร์ก โซ-ยอน นักวิเคราะห์จากโคเรีย อินเวสเม้นท์ แอนด์ ซีเคียวริตี้เปิดเผยว่า "นักลงทุนอ้างเหตุผลจากการปิดทรุดตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กมาเป็นปัจจัยชี้นำการซื้อขายในตลาดหุ้นเกาหลีใต้จนทำให้ดัชนีแกว่งตัวปิดในแดนลบวันนี้"
          โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 360 จุดจากแรงเทขายเนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงเป็นวงกว้างจากปัญหาสินเชื่อ หลังจากที่การดำเนินงานของธนาคารและค่าเงินดอลลาร์ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง  
          ขณะที่คิม ซอง-จู นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์แดวูกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงประกอบกับสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนวิตกกังวล แต่ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอาจถูกบดบังจากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ"
          ขณะที่นาย ลี ซอง-แต ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า ราคาผู้บริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นและเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยังแสดงความกังวลต่อปัญหาในตลาดสินเชื่อและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนราคาน้ำมันว่าจะเป็นปัจจัยลบที่ถ่วงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ และจะส่งผลต่อตัวเลขผลผลิตของเกาหลีใต้
          โดยในวันนี้ตลาดมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 325 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 8.5 ล้านล้านวอน
          หุ้นเอสเค เทเลคอมปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สองที่ระดับ 6% เช่นเดียวกับหุ้นแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ที่ปิดขยับขึ้น 1%
          ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยหุ้นชินฮาน ไฟแนนเชียลปิดดิ่งลง 7.2% และหุ้นกุ๊กมินปิดร่วงลง 2.3%
          ด้านหุ้นฮุนได เฮฟวี่ปิดร่วงลง 3.6% แม้ว่าบริษัทจะรายงานตัวเลขผลประกอบการไตรมาสสามที่สดใสก็ตาม