บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดตัวโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 ครอบคลุมพื้นที่อาคารรวม 400,000 ตร.ม. บนเนื้อที่ 400 ไร่ ซึ่งจะเป็นคลังสินค้าของ WHA ที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ พร้อมประเดิมต้อนรับลูกค้ารายแรก บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ลงนามในสัญญาเช่าคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit ขนาดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ทำให้เคอรี่ โลจิสติคส์ มีพื้นที่คลังสินค้าที่เช่ากับ WHA ทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 18,000 ตารางเมตร
โครงการ ดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 ที่สร้างขึ้นใหม่นี้ จะเป็นศูนย์โลจิสติกส์แบบมิกซ์ยูส และปลอดอากรที่ให้บริการคลังสินค้าและโรงงานแบบ Built-to-Suit ซึ่งมีพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 5,000 ถึง 100,000 ตร.ม. เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้ผลิตสินค้า โชว์รูม หรือศูนย์ผึกอบรมต่างๆ
โดยคลังสินค้าของเคอรี่ โลจิสติคส์ลูกค้ารายแรกของโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์เทพารักษ์ กม. 21 นับเป็นศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ให้บริการสินค้าหลากหลายและเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูงในปัจจุบันและด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 ซึ่งเป็นโครงการคลังสินค้าที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดบนทำเลยุทธศาสตร์ใกล้กับกรุงเทพฯ การเดินทางไปกลับระหว่างคลังสินค้าของเคอรี่กับถนนสายหลัก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และสถานที่สำคัญอื่นๆ จึงเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
พื้นที่เช่าคลังสินค้าในสัญญาฉบับนี้ครอบคลุมทั้งหมด 10,000 ตร.ม. และด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและความต้องการบริการจัดส่งที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 การเปิดคลังสินค้าอัจฉริยะแห่งใหม่พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการจัดการคลังสินค้าและซัพพลายเชนอย่างทันท่วงทีนั้นได้เป็นไปตามแผนการลงทุนของเคอรี่ โลจิสติคส์ สำหรับปี 65
นายพงศ์ศิริ ศิริธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่ม Kerry Logistics Network Limited เปิดเผยว่า บริษัทถือเป็นลูกค้ารายแรกของโครงการ ดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม.21 ซึ่งเป็นโครงการที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ มีความสะดวกสบายใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และยังอยู่บนถนนสายหลัก ระหว่างคลังสินค้าของเคอรี่ ไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ชลบุรี
สำหรับพื้นที่เช่าคลังสินค้าในสัญญาครอบคลุมทั้งหมด 10,000 ตร.ม. พร้อมให้บริการรองรับกลุ่มลูกค้าแบรนด์เนม กลุ่มแฟชั่น & ไลฟ์สไตล์ เนื่องจากบริษัทประเมินว่า หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ธุรกิจแฟชั่น และไลฟ์สไตล์จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตโดดเด่นจะเห็นได้จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่รระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ ขณะที่กลุ่มธุรกิจแฟชั่น & ไลฟ์สไตล์ระดับบน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย และในอนาคตประเทศไทยมีโอกาสเป็นศูนย์รวมแฟชั่นของแบรนด์ระดับโลกมากขึ้น การให้บริการของเคอรี่ โลจิสติคส์ มั่นใจว่าตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในธุรกิจกลุ่มดังกล่าว โดยหากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คาดว่ากลุ่มธุรกิจแฟชั่น &ไลฟ์สไตล์ จะมีสัดส่วนรายได้เติบโตขึ้นเท่าตัว
"คลังสินค้าใหม่จะเป็น New Fashion Hub ซึ่งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม และสะดวกในการขนส่งสินค้า เป็นคลังสินค้าที่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ การเดินทางเข้าใจกลางเมืองก็มีความสะดวกรวดเร็ว น่าจะเป็นโลเคชั่นที่ลูกค้าพึงพอใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า แบรนด์เนม ซึ่งตอนนี้มีกลุ่มลูกค้าแบรนด์เนม หลายรายเริ่มเซ็นสัญญาเพื่อใช้บริการคลังสินค้าแห่งใหม่นี้แล้ว
จากความสำเร็จของการบริหารพัฒนาคลังสินค้าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แสดงให้เห็นถึงความพร้อม และศักยภาพของบริษัทในการให้บริการคลังสินค้า เป้าหมายของเราคือการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคด้านแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ระดับโลก และเพื่อทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจริง เคอรี่ โลจิสติคส์ จำเป็นต้องมีคลังสินค้าระดับเวิลด์คลาสเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าให้สอดรับกับการเติบโต" นายพงศ์ศิริ กล่าว
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA กล่าวว่า คลังสินค้าแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์นี้จะช่วยให้เคอรี่ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดเพื่อมอบบริการเสริมต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่ธุรกิจของลูกค้าของเราที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง