นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) เปิดเผยว่า CGH ได้พิจารณาทบทวนแผนกลยุทธ์ของบริษัทในเครือ อย่าง บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างโดดเด่นและมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี และเนื่องด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีทางการเงินการลงทุนมีการพัฒนาไปในรูปแบบที่หลากหลาย บริษัทฯ จึงได้เร่งศึกษาข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเก่า และขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น และตัดสินใจปรับเปลี่ยนธุรกิจบริการทางการเงินครั้งใหญ่เพื่อไปสู่ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่ในการเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัล CGS จึงได้เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อขออนุมัติเปลี่ยนชื่อ จาก "บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)" หรือ CGS เป็น "บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)" (Pi Securities Public Company Limited) โดยมีชื่อย่อว่า "PI" "พาย"
สำหรับชื่อบริษัทใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ภายใต้แบรนด์ "Pi" (พาย) และสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจโดยรวม ในการมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์และรวบรวมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีทางการเงินจากทั่วโลกแอปพลิเคชัน "Pi" (พาย) มีกำหนดเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2565 ทั้งในระบบ Android และ iOS
บทบาทของแอปพลิเคชันนี้จะเป็นโซลูชั่นด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และการลงทุนส่วนบุคคลชั้นนำของไทย แอปพลิเคชัน "Pi" (พาย) ได้ถูกสร้างและออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์อันทันสมัยของนักลงทุนที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว พร้อมมอบบริการซื้อขายหลักทรัพย์แบบเรียลไทม์ให้กับลูกค้าในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ ตราสารอนุพันธ์ กองทุนรวม พันธบัตร ตราสารหนี้ และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดจะสามารถทำการซื้อขายได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว โดยมีระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล "Wallet" เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ
นอกจากนี้ยังมีบริการข่าวสารทางการเงินการลงทุน ราคาหลักทรัพย์จากตลาดชั้นนำทั่วโลก รวมไปถึงบทวิเคราะห์ที่ครอบคลุม ละเอียด แม่นยำ และทันสถานการณ์อีกด้วย การปรับกลยุทธ์ธุรกิจทั้งหมดในครั้งนี้ แสดงถึงวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อย และเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่ต่อไป
นายทอมมี่ เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนในการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่นี้มากว่า 1 ปี เชื่อมั่นว่า "Pi" (พาย) จะเป็นแอปพลิเคชันด้านการเงินที่ใช้งานได้ง่ายและก่อประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นลงทุน หรือนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นแอปพลิเคชันด้านการเงินแอปแรกในประเทศไทยที่สามารถเทรดทุกผลิตภัณฑ์ในแอปเดียว ไม่ต้องคอยสลับโปรแกรมเวลาเทรดอีกต่อไป โดยหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชัน "Pi" (พาย) เป็นที่เรียบร้อย บริษัทฯ ได้วางแผนในการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ล้ำหน้าที่สุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าแอปพลิเคชัน "Pi" (พาย) จะเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำทางด้านการเงิน ที่ดีและมีความหลากหลายที่สุดในตลาด
แอปพลิเคชั่น "Pi" (พาย) นี้ถูกสร้างขึ้นบนระบบ API และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นตัวส่งเสริมให้แพลตฟอร์มนี้สามารถขยายตัวได้อย่างไร้ขีดจำกัด สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการไปในโลกการเงินดิจิทัล ตัวอย่างเช่นบริการด้าน Social Trading ที่คาดว่าจะเกิดภายในปีนี้อีกด้วย
การเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ยังเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจของ CGH ที่เพิ่งประกาศจัดตั้งบริษัท "Pi Ventures" (พาย เวนเจอร์) ด้วยเม็ดเงิน 500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนทางการลงทุนครั้งสำคัญ โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทและโครงการที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดกับแพลตฟอร์ม "Pi" (พาย) และช่วยสร้างนวัตกรรมด้านเทคโลโลยีดิจิทัลร่วมกับบริษัทในเครือทั้งหมด
CGS เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการด้านการเงินแบบครบวงจร และเป็นธุรกิจหลักของ CGH โดยมุ่งเน้นบริการทั้งลูกค้า High net worth และลูกค้ารายย่อย เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี มีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุม มุ่งเน้นการพัฒนาบริการในช่องทางใหม่ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ทำรายได้รวมและจำนวนลูกค้าเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 39% และมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 36% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับที่ 15 และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับที่ 2 สำหรับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า