Winnonie สตาร์ทอัพรายแรกของไทยที่บุกเบิกให้บริการแพลตฟอร์มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ ระดมทุนระดับซีรี่ส์ A สำเร็จ รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท หรือราว 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 2 กลุ่มผู้ลงทุน ยิบอินซอย และ กลุ่มไอ-มอเตอร์ เล็งระดมทุนในรอบถัดไปอีกครั้งในปีนี้ เพื่อขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดด รองรับความต้องการของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์และไรเดอร์หัวใจสีเขียว ช่วยลดทั้งค่าใช้จ่าย ลดหนี้ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มระดับคุณภาพชีวิตรองรับความต้องการขับขี่ที่ "ดีต่อเราและต่อโลก" ตั้งเป้าให้บริการแก่ผู้ใช้ 2,000-3,000 ราย ภายในปี 65 ก่อนขยายกลุ่มเป้าหมายสู่ผู้สนใจทั่วไปกว่า 20,000 ราย เพื่อหนุนยานยนต์สองล้อพลังงานสะอาดอย่างเต็มกำลังในปี 68
นายรวี บุญสินสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาธุรกิจองค์กร บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และกรรมการ บริษัท วินโนหนี้ จำกัด (Winnonie) กล่าวว่า นวัตกรรมธุรกิจพลังงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่าง Winnonie เป็นสตาร์ทอัพที่ BCP ให้การสนับสนุนผ่านสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจมาตั้งแต่แรกเริ่ม จากความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานที่เกิดจากการประยุกต์แนวคิดทางธุรกิจเข้ากับหลักการ Design Thinking ภายใต้วัตถุประสงค์เบื้องต้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ลดภาระหนี้สิน และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพ พัฒนาเป็นสตาร์ทอัพรายแรกของประเทศไทยที่บุกเบิกบริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเครือข่ายสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่
จนในวันนื้ กลายมาเป็นธุรกิจ "แพลตฟอร์มให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง" ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จากความสำเร็จในการระดมทุนสู่ Series A มูลค่าราว 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 80 ล้านบาท จาก 2 กลุ่มผู้ลงทุน คือ ยิบอินซอย บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจรและ กลุ่มบริษัท I-motors ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทย ซึ่งต่างมองเห็นโอกาสและเชื่อมั่นในศักยภาพของ Business Model ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน และเกิดเป็นความร่วมมือในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นายรวี กล่าวว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Winnonie สามารถขยายเครือข่ายบริการอย่าง ก้าวกระโดดในปี 65 สู่เป้าหมายขยายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติให้ครอบคลุมพื้นที่ 50% ในกรุงเทพฯ รองรับความต้องการใช้งานของผู้ขับขี่ประมาณ 2,000-3,000 ราย หลังจากนั้น Winnonie วางเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติกว่า 600 สถานี รองรับการขยายจำนวนผู้ใช้กว่า 20,000 รายในปี 68 เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบในจักรยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดและความคุ้มค่าต่อการขับขี่ ส่งเสริมการสร้างสังคมสีเขียวที่ปลอดภัยไร้มลพิษ และสนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ ดีต่อเราและต่อโลก
สำหรับการประสานกำลังร่วมกันระหว่างวินโนหนี้ ยิบอินซอย และไอ-มอเตอร์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Winnonie อย่างรอบด้าน ทั้งผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยี โดยอาศัย Data เป็นหัวใจของการพัฒนาธุรกิจเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ และสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและพร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต
"ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 โดยมีเป้าหมายสำคัญเป้าหมายแรกคือคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ในปี 2030 ทำให้ บางจากฯ จึงยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจพลังงานสีเขียวเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือไปจากการปรับปรุงประสิทธิภาพต่าง ๆ ในกระบวนการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้การปล่อย emission ลดลง ทั้งนี้ ในการประชุม APEC ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ โดยมีแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เป็นแนวคิดสำคัญ บางจากฯ ในฐานะ Communication Partner สนับสนุนการสื่อสารประชาสัมพันธ์งานประชุม จะสนับสนุนจักรยานยนต์ไฟฟ้า Winnonie สำหรับใช้ในการประชุมครั้งสำคัญนี้ด้วย" นายรวี กล่าว
นางมรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยิบอินซอย กล่าวว่า Winnonie เป็นธุรกิจที่เกิดจากความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ที่มีพลังและความสร้างสรรค์ที่มุ่งปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมและคนในสังคมด้วยเทคโนโลยีและการใช้พลังงานสะอาด สะท้อนถึงปรัชญาในการทำธุรกิจของยิบอินซอยที่มุ่งสร้างงานที่มีประโยชน์ต่อคนและสังคมในทุกยุคสมัย การร่วมลงทุนใน Winnonie ยังเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นสายงานด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมพลังงานสะอาดของกลุ่มยิบอินซอย
นายปรีชา ประเสริฐถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-มอเตอร์ โฮลดิ้ง ผู้ผลิต ประกอบ และจัดจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า ปัจจุบันในประเทศไทยมีปริมาณการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์รวมในปี 64 ประมาณ 1.8 ล้านคัน โดยในช่วงโควิดกลับมียอดขายเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยหลักมาจากการที่ลูกค้านำไปใช้ประกอบธุรกิจไรเดอร์ส่งของ ส่งอาหาร ทำให้ กลุ่มไอ-มอเตอร์ เล็งเห็นว่าธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าจะยิ่งมีการเติบโตมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Winnonie แพลตฟอร์มให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง ที่สถานีบริการบางจาก ที่ BCP ริเริ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มไอ-มอเตอร์ เห็นถึงแนวทางที่เป็นไปตามทิศทางเดียวกัน จึงเข้าร่วมลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท วินโนหนี้ จำกัด แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน และทำให้ Winnonie แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น