(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดลบ 70.46 จุดเหตุวิตกซับไพรม์

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดอ่อนตัวลงในวันนี้ (13 พ.ย.) โดยดัชนีนิกเกอิร่วงแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 เป็นต้นมา หลังจากการซื้อขายที่ผันผวนจากวิตกเรื่องวิกฤติสินเชื่อ
          อย่างไรก็ดี ยอดจีดีพีญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ได้ช่วยสกัดช่วงขาลงในตลาด โดยดัชนีนิกเกอิสามารถปิดเหนือระดับ 15,000 จุดได้
          นักลงทุนมีปฏิกริยาเล็กน้อยกับการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ 0.5% นับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 11 ติดต่อกันแล้ว
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลง 70.46 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 15,126.63 จุด หลังจากปรับตัสในช่วง 14,988.77 - 15,235.56 จุด ปริมาณการซื้อขาย 2.2 พันล้านหุ้น จากระดับเมื่อวานนี้ที่ 2.34 พันล้านหุ้น
          นายเรียวตะ โอทสึกะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โตโย กล่าวว่า "นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่มีราคาร่วงลง หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยจีดีพีแข็งแกร่งเกินคาด อันเป็นผลมาจากยอดส่งออกที่สดใสและตัวเลขการใช้จ่ายในภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น"
          ในช่วงเช้าวันนี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เพิ่มขึ้น 0.6% จากช่วงไตรมาสก่อนหน้า หรือที่ระดับ 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปและเอเชียที่เพิ่มขึ้น
          ทั้งนี้ หุ้นนิปปอน ออยล์ ร่วงลง 2.1% หุ้นโชวะ เชลล์ ดิ่งลง 4.5% หุ้นคอสโม ออยล์รูดลง 1.8% และหุ้นอิเดมิทสึ โคซาน บวกขึ้น 2.8% 
          ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวน โดยหุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล ดีดขึ้น 0.8% หุ้นเรโซนา โฮลดิ้งส์ ดีดขึ้น 3.3% และหุ้นชินเซอิ แบงค์ บวกขึ้น 0.6% แต่หุ้นมิซูโฮ ไฟแนนเชียล ร่วงลง 0.2% และหุ้นซูมิโตโม่ มิตซุย ไฟแนนเชียล ลดลง 0.5%