TOP ดีดขึ้น 2.38% หรือเพิ่มขึ้น 1.25% มาที่ 53.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 886.07 ล้านบาท เมื่อเวลา 16.10 บาท จากราคาเปิด 53 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 54 บาท ราคาต่ำสุด 53 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ บมจ.ไทยออยล์ (TOP)ว่า คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 4/64 เติบโต +126%QoQ เป็น 4.65 พันล้านบาท (แต่ -36%YoY) ปัจจัยหนุนการฟื้นตัว QoQ คือ ค่าการกลั่น GRM สูงขึ้น คาดไว้ที่ 5.4 ดอลลาร์/บาร์เรล (+238%QoQ และ +350%YoY), ประเมินว่ามีกำไรสต็อก 2.1 พันล้านบาท และคาดกำไร FX 300 ล้านบาท สำหรับ Norm profit คาดไว้ที่ 2.23 พันล้านบาท (+177%YoY, +281%QoQ)
แนวโน้มปี 65 คาดว่าค่าการกลั่นจะยังแข็งแกร่งต่อ จากอุปสงค์ฟื้นตัวและราคาน้ำมันสูงขึ้น ผลกระทบจากโอมิครอนไม่ได้รุนแรงมากอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า ณ ปัจจุบันค่าการกลั่น JET, GO, ULG เปลี่ยนแปลง +11%, +17%, -6% QTD ด้านสเปรดอะโรเมติกส์ คาดว่าสเปรด PX จะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ณ 17 ม.ค.22 สเปรด PX และ BZ เพิ่ม +32% และ +27% QTD เป็น 126 และ 187 ดอลลาร์/ตัน
โครงการ CFT หนุนกำไรระยะยาว ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 70% และเมื่อแล้วเสร็จในต้นปี 2024F จะทำให้กำลังการผลิตโรงกลั่นเพิ่มจาก 2.75 เป็น 4.0 แสนบาร์เรล/วัน การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และไม่มีน้ำมันเตาในการผลิต เงินลงทุนโครงการนี้ทั้งหมด 5.0 พันล้านดอลลาร์
คงคำแนะนำซื้อ TOP ให้ราคาพื้นฐาน 67 บาท อิงกับ P/BV ปี 22F ที่ 1.10 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)