ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นธนาคารพาณิชย์ต่างๆได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องวิกฤตตลาดซับไพรม์อีกครั้ง หลังจากที่มีข่าวว่าเอชเอสบีซีได้จัดหาเงินประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยพยุงกองทุน 2 แห่งที่ลงทุนในตราสารปรับโครงสร้าง (SIV) ซึ่งได้รับผลกระทบจากความผันผวนในตลาดสินเชื่อ และข่าวที่ว่ากองทุนเทมาเส็ก โฮลดิ้งของสิงคโปร์กำลังขายหุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ฉุดให้บรรยากาศในตลาดในวันนี้ซบเซา เนื่องจากซิตี้กรุ๊ปได้ออกมาเตือนว่าอาจจะลดต้นทุนการดำเนินงาน อันเนื่องมาจากภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถไต่ระดับขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มบริษัทถ่านหินของจีน อาทิ ไชน่า โคล และเชินหัว เอ็นเนอจี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ราคาถ่านหินจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากปริมาณถ่านหินอาจมีไม่เพียงพอกับความต้องการ
ดีลเลอร์คาดการณ์ว่า การซื้อขายยังคงไร้ทิศทางในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากสัญญาล่วงหน้าต่างๆจะหมดอายุลงในวันพฤหัสบดีนี้ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆในสหรัฐในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดร่วง 416.41 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 27,210.21 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 26,637.61 และ 27,552.34 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1.2007 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง
หุ้นเอสเอชบีซี ปิดลดลง 2.60 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.65% ขณะที่หุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า ตกลง 0.22 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 5.19%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--