นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 65 อยู่ที่ 2.75-3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนการขยายฐานรายได้เข้าสู่ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงชุดสายไฟตามเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน โดยต้องมีสายไฟเป็นตัวเชื่อมระหว่าง EV และอื่นๆ อาทิ Charging station ในสถานีบริการน้ำมัน, Charging box ในบ้าน อาคารสำนักงาน หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับขนาดกำลังไฟฟ้า และปริมาณการใช้ไฟที่มากขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนการเพิ่มกำลังการผลิตสายไฟสินค้าทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้ EV ที่เพิ่มขึ้นและเตรียมขยายตลาดสายไฟ High Voltage เพื่อมุ่งเน้นสินค้า High-Margin และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสายไฟสำหรับกลุ่ม B2C (Business to Customer) ในประเทศเวียดนามร่วมด้วย พร้อมตั้งเป้าขยายตลาดส่งออกเพิ่มเป็น 50 ประเทศทั่วโลก จากเดิมที่ส่งออกอยู่ 42 ประเทศ เนื่องจากมี Partner ที่เป็นระดับ Global company ที่ได้รับงานในประเทศต่างๆ นั้น จึงส่งผลทำให้สามารถส่งสินค้าไปหลากหลายประเทศได้เพิ่มขึ้นด้วย
บริษัทวางแผนการผลิตและจำหน่ายสินค้าใหม่ในกลุ่ม High-Margin อาทิ สายไฟ Submarine Cable หรือ เคเบิลใต้น้ำ , สายไฟ HVDC Cable หรือ ระบบสายส่งกระแสตรงแรงดันสูงใช้สำหรับในการส่งกำลังไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสตรงทำให้สามารถเชื่อมระบบไฟฟ้ากระแสสลับต่างระบบที่มีความถี่ต่างกันได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องทำการซิงโครไนซ์ และ Transmission line หรือสายส่งหรือสายนำสัญญาณ เป็นต้น อีกทั้งบริษัทยังมีสินค้าชนิดอื่นที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาสินค้าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายต่อไป เช่น เทปพันสายไฟสำหรับ สายไฟ High Voltage และ PD Conduit อีกด้วย
"บริษัทเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ EV เนื่องจากเล็งเห็นว่าเทรนด์ดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก และเชื่อมั่นว่าในอนาคตพลังงานสะอาดจะเป็นสิ่งตอบโจทย์ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนได้อย่างดี ประกอบกับในปี 65 จะมุ่งเน้นในสินค้า High-Margin เช่น High ? Extra , High Voltage และ Transmission line ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าแห่งชาติของเวียดนาม ฉบับที่ 8 (PDP8) ของประเทศไทยและเวียดนาม
ขณะที่ปัจจุบัน Backlog มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง และจากปัจจัยทั้งหมดที่ได้กล่าวมาเชื่อมั่นว่าจะสนับสนุนผลงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อเนื่อง" นายประกรณ์ กล่าว