(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 41.13 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 13, 2007 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่วางแผนจะร่วมงานกับธนาคารกลางในประเทศอื่นๆเพื่อยับยั้งวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อทั่วโลก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 41.13 จุด หรือ 0.31% แตะระดับ 13,473.90 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 8.94 จุด หรือ 0.61% แตะระดับ 1,486.59 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 18.79 จุด หรือ 0.71% แตะระดับ 2,671.14 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.73 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 18 ต่อ 14 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.30 พันล้านหุ้น
นายสตีเฟ่น โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัทวีเดน แอนด์ โค กล่าวว่า "ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดขานรับข่าวที่ว่า เฟดได้ตกลงเห็นชอบร่วมกับธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะยับยั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ แต่ข่าวดังกล่าวไม่สามารถกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักได้ในช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลว่าปัญหาสินเชื่ออาจลุกลามจนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย"
"นักลงทุนเชื่อว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยยังมีอยู่ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ แม้เฟดพยายามลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคาร อีกทั้งพยายามใช้นโยบายต่างๆเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา แต่ระบบการเงินของสหรัฐในขณะนี้เข้าขั้นวิกฤติ" นายโกลด์แมน
เมื่อวานนี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยมากขึ้น และเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นเพื่อยับยั้งไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะดังกล่าว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีอยู่ประมาณ 38% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี และยังเป็นสถิติที่สูงขึ้นจากที่สำรวจไว้ในเดือนพ.ย.ที่ 33.5%
นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของสหรัฐจะขยายตัวในอัตรา 0.9% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.6%
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้น อาทิ หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.92 ดอลลาร์ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าน้ำมันดิบสำรองปรับตัวลดลง และจากข่าวที่ว่าเกิดเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเอ็กซอน โมบิล ในรัฐเท็กซัส ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง 4.37 ดอลลาร์ แตะระดับ 94.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้
หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.7% หลังจากธนาคารยอมรับว่าต้องตัดบัญชีหนี้สูญเพิ่มขึ้นอีก และกล่าวว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อจะยืดเยื้อไปจนถึงปี 2551 ขณะที่หุ้นพีเอ็นซีดิ่งลง 2.5% จากข่าวที่ว่าบริษัทเตรียมกันสำรองหนี้สูญในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอทีแอนด์ที ดีดขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการและเพิ่มการจ่ายเงินปันผล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ