SPRC บวก 2.60% หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท มาที่ 9.85 บาท มูลค่าซื้อขาย 474.77 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.12 น. จากราคาเปิด 9.65 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 9.90 บาท ราคาต่ำสุด 9.55 บาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เกิดเหตุน้ำมันรั่ว บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) มีประกันครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สิน, การหยุดชะงักของธุรกิจ, ประกันขนส่งทางทะเล, และประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ซึ่งเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบการดำเนินงานของโรงกลั่น โดยคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท
โบรกฯ ระบุว่าเหตุการณ์นี้ไม่กระทบการดำเนินงานโรงกลั่นเนื่องจาก SPRC มีน้ำมันในคลัง 4.5 ล้านบาร์เรล สำหรับใช้ 30 วัน และ SPRC สามารถส่งเรือขนาดเล็กไปรับน้ำมันดิบจากเรือขนาดใหญ่เพื่อรอ SPM ในการซ่อมบำรุง ซึ่ง SPRC จะจัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลในวันนี้
ทั้งนี้ น้ำมันรั่วที่จุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) SPRC คาดน้ำมันดิบ 160-180k ลิตรหรือน้ำมันดิบ Murban 1.0-1.1k บาร์เรล รั่วในทะเลประมาณ 20 กม.ทิศตะวันออกเฉียงใต้จากนิคมฯของมาพตาพุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนวันที่ 25 ม.ค. และควบคุมสถานการณ์ได้ภายในช่วงกลางวันของ 26 ม.ค.
บริษัทยังอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุของน้ำมันรั่ว SPRC ได้ติดต่อหน่วยงานรัฐบาลฯที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมการรั่วไหล SPM นี้เป็นทรัพย์สินร่วมของ SPRC และPTTGC โดยทั้งสองบริษัทจะสลับกันดำเนินงาน SPM ทุกสามปี การถือครองกรรมสิทธิ์ร่วมกันเป็นผลจากบริษัทเก่า Alliance Refinery Company (ARC)ก่อนที่แยกเป็น SPRC กับ RRC ใน 2007
ประกันครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สิน, การหยุดชะงักทางธุรกิจ, การขนส่งทางเรือ, และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก SPRC มีประกันครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สินมากถึง US$1b, การหยุดชะงักทางธุรกิจระยะเวลา 2 ปี, การขนส่งทางเรือ (เฉพาะการรั่วซึมระหว่างขนส่ง), และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (3 rd party liability) มากถึง US$100m โดยมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) US$1m ต่อเหตุการณ์ ซึ่งจะครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สินมากพอ มีเพียงความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่เรายังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย แต่เหตุการณ์น้ำมันรั่วของ PTTGC ในปี ค.ศ.2013 50k ลิตรความเสียหายรวม 1 พันลบ. ประกันครอบคลุมความเสียหายครึ่งหนึ่งและ PTTGC ต้องจ่าย 500ลบ. บล.กรุงศรี มองว่าสองเหตุการณ์นี้อาจเทียบกันไม่ได้จากสภาพการรั่วของน้ำมัน