นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 65 เติบโต 10-20% หรือมาอยู่ที่ระดับ 1,100-1,200 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่คาดว่ารายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) และวางเป้าหมายรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง
ขณเดียวกันบริษัทมีแผนจะปรับขึ้นราคาขายโครงการใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นราว 2-3% แต่อย่างไรก็ตาม บ้านต้นทุนเดิมก็ยังจะคงราคาไว้ในโครงการเดิมที่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ ซึ่งคิดเป็น 30-40% ของเป้าหมายรายได้ในปีนี้
ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วย โซนบางบัวทอง 5 โครงการ, โซนฉะเชิงเทรา 1 โครงการ และโซนบางขุนเทียนอีก 1 โครงการ โดยปีนี้จะมีการเปิดขายโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,800 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ คุณาลัย เดซี่ (Kunalai Daisy) เป็นโครงการแนวราบบนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ในทำเลบางบัวทอง มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายในไตรมาส 2/65 เป็นการเปิดขายเพื่อทดแทนโครงการเดิมที่หมดไป
และโครงการ คุณาลัย นาวาร่า มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท เป็นโครงการในทิศที่ 3 (ทิศใต้) โซนพระราม 2-บางขุนเทียน ซึ่งเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมขาย ระดับราคาเฉลี่ยที่ 6.4 ล้านบาท จะเปิดขายในช่วงปลายปี 65 และจะโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ทันที โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ไว้ที่ 1,700 ล้านบาท
สำหรับงบลงทุนในปีนี้วางไว้ที่ 1,000 ล้านบาท รองรับการซื้อที่ดินเข้ามาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย จากปี 64 ได้มีการซื้อที่ดินเข้ามาแล้วค่อนข้างมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่าเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการในอนาคต รวมมูลค่า 9,800 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรองรับการเติบโตได้ราว 4-5 ปี
นางประวีรัตน์ กล่าวว่า บริษัทมองความต้องการบ้านในโซนที่ KUN มีอยู่ที่ระดับราคา 2-6 ล้านบาท ในปีนี้ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดเข้าชมโครงการ และยอดขายที่ยังเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันภาครัฐก็ได้มีการส่งเสริมให้ประชาชนมีบ้าน ผ่านกระบวนการของธนาคารพาณิชย์ภาครัฐมากขึ้น เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ได้ทำแคมเปญพิเศษเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังให้กู้บ้านในวงเงินที่มากขึ้น และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้มีเงินเดือนประจำ เช่น ลูกค้าขายของออนไลน์ ลูกค้าฟรีแลนซ์ เป็นต้น ทำให้ปีที่แล้ว ธอส.สามารถปล่อยกู้ได้เกินเป้า และปีนี้เป้าหมายก็มากขึ้นกว่าเดิม สะท้อนว่าภาครัฐ ได้เลือกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากำลังซื้อจะได้รับผลกระทบไปบ้าง แต่ด้วยนโยบายและความช่วยเหลือของภาครัฐ จึงเชื่อว่าบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มดังกล่าวจะยังขายได้ดี เห็นได้จากในเดือนม.ค.นี้ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ก็ยังทำได้ค่อนข้างดี ขณะเดียวกันในส่วนของ KUN จะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงคาแรคเตอร์ของสินค้า เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และส่งเสริมภาพลักษณ์ เรื่องแบรนด์ รวมถึงการจัดทำโปรโมชั่น โดยเน้นไปที่เรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ลูกค้ามีเงินเหลือ โดยไม่ต้องมีการลงทุนในเรื่องบ้านมากนัก เช่น ช่วยค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง Green Energy เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคา ซึ่งก็ได้เริ่มทดลองมาตั้งแต่ปีก่อน ลูกค้าก็ได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ปีนี้จะยังดำเนินการต่อ โดยจะขยายไปสู่การทำในเรื่องของการจัดการขยะชุมชน วางเป้าหมายภายในครึ่งปีแรกนี้ หาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญดังกล่าวเข้ามาร่วมทำงานไปด้วยกัน