น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ในการประชุม กมธ.ดีอีเอส ในวันที่ 10 ก.พ. 65 จะเชิญคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT), กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, บมจ.ไทยคม (THCOM) และบริษัทที่จะเข้าร่วมการประมูล เข้ามาหารือแนวทางในการประมูลใบอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าถึงวงโครจรดาวเทียมร่วมกัน หลังดาวเทียมไทยคม 4 จะหมดสัญญาในปี 2566
โดยอาจจะมีข้อเสนอให้ลดสเป็คของผู้เข้าร่วมการประมูลลงมาได้หรือไม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการต่างๆ เข้าถึง แต่อาจจะมีปัญหาเพราะธุรกิจดังกล่าวต้องมีเครื่องมือที่ราคาสูง และต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดังนั้นต้องมาหาทางออกร่วมกัน
นอกจากนี้ กสทช.เอง ก็ยอมรับว่า การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในกรณียังมีไม่มากพอ ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ว่ามีการฮั้วประมูลหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ และมีการเอาสมบัติชาติไปขาย ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่าจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและสังคมเข้าใจอย่างถูกต้อง
น.ส.กัลยา กล่าวว่า ทาง กมธ.ดีอีเอส ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อวงกว้าง โดยต้องเร่งดำเนินการเปิดประมูลเพื่อต่อสัญญาวงโคจร ซึ่งปกติจะต้องเตรียมพร้อมให้เสร็จก่อนหมดสัญญา เพราะหากปล่อยให้หมดสัญญา อาจจะกระทบหลายเรื่อง อาทิ ระบบการสื่อสารภายในประเทศ ซึ่ง กสทช.ระบุว่าจะเร่งการประมูลให้เสร็จภายในเดือนมิ.ย. 65 โดยที่ผ่านมา มีคนเข้าร่วมการประมูลน้อย เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีน้อยรายในประเทศ วงเงินประมูลและสเป็คค่อนข้างสูง