หุ้น HMPRO บวก 2.86% มาอยู่ที่ 14.40 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.04 บาท เมื่อเวลา 10.08 น.มูลค่าซื้อขายราว 43.38 ล้านบาท
ขณะที่หุ้น CPALL บวก 0.81% มาที่ 61.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท เมื่อเวลา 10.11 น.มูลค่าซื้อขายคึกคักกว่า 487.21 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ของ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะนำซื้อหุ้น บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ให้ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท จากราคาหุ้นยัง laggard หุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่าง BJC CPALL MAKRO
โดยร้าน HomePro ในประเทศไทยมียอดขายฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ +15% yoy ในเดือน ต.ค., +6-7% yoy ในเดือนพ.ย. และเกือบ 10% ในเดือน ธ.ค.64 ซึ่งจะทำให้ยอดขายสาขาเดิมเติบโต 10% ใน Q4/64 ขณะที่คาดว่ายอดขายสาขาเดิมจะยังเพิ่มขึ้นใน Q1/65 จากการบริโภคที่ฟื้นตัว และมาตรการ "ช้อปดีมีคืน"
เราเชื่อว่า HomePro จะมี SSSG สูงกว่าคู่แข่งในปี 65 จากฐานที่ต่ำในปี 64 เพราะสาขาในแหล่งท่องเที่ยวมียอดขายอ่อนตัวและผลกระทบจากการ lockdown เราจึงตั้งสมมติฐาน SSSG ของ HomePro อยู่ที่ 9% ในปี 65 ทำให้ยังคงเชื่อว่า HMPRO เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มค้าปลีกไทยสำหรับปี 65 เนื่องจากบริษัทกำลังเข้าสู่ระยะฟื้นตัวและเราคาดว่า HMPRO จะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 26% ในปี 65
นอกจากนี้ HMPRO ยังมีการประเมินมูลค่าน่าสนใจ โดยซื้อขายอยู่ที่ P/E เพียง 28.4x ในปี FY22 หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี ขณะที่เล็งเห็นปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นจากการบริโภคที่ฟื้นตัวดีกว่าคาดและสถิตินักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ คาดกำไร บมจ.ซีพีออลล์ (CPALL) จะกลับมาฟื้นตัวถึง 107% ในปี 65 สูงขึ้นจากฐานที่ต่ำในปี 64 โดยผลกระทบการถือหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ลดลงราว 54.7% หลัง MAKRO ขายหุ้น PO รวมกับที่ CPALL จะขายหุ้น MAKRO บางส่วนพร้อม PO จะช่วยให้ MAKRO และ CPALL ได้เงินมาคืนหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ Lotus?s ด้วยพัฒนาการทั้งธุรกิจและผลประกอบการที่จะเห็นต่อเนื่องนับจากนี้ ประเมินมูลค่าพื้นฐาน CPALL ปี 65 ที่ 70.20 บาท Upside น่าเข้าลงทุน
ส่วนภาพทางเทคนิค ฟอร์มฐานแนวรับได้แกร่งบริเวณ 58.50 บาท พร้อมสัญญาณ Bullish Divergence ใน MACD และ RSI สะท้อนสัญญาณกลับตัว เป้าหมายอยู่ที่ 60.00 บาท