นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 65 อยู่ที่ 900-1,000 ล้านบาท เพราะมีปัจจัยเรื่องราคาเฉลี่ยของสินค้าที่สูงขึ้น หลังประเมินว่าภาพรวมตลาดยางรถจักรยานยนต์น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าปีก่อน โดยการขยายตลาดยังคงเน้นในรูปแบบจำหน่ายทางตลาดออนไลน์เป็นหลักเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทจะมุ่งเน้นขยายตลาดในกัมพูชาและเกาหลีใต้ หลังจากปีก่อนสามารถเข้าไปสู่ตลาด 2 ประเทศนี้ได้แล้ว โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ในปีนี้น่าจะยังคงใกล้เคียงเดิม คือ ต่างประเทศ 60% และในประเทศ 40%
"แผนปีนี้บริษัทได้วางกลยุทธ์สั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าไว้บางส่วน เพราะมั่นใจว่าแนวโน้มของราคาวัตถุดิบยังคงเป็นขาขึ้น แต่คงไม่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเรายังคงเป้าหมายเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน มีหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมมุ่งยกระดับสินค้า บริการ และธุรกิจด้วยกระบวนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
ส่วนแผนธุรกิจของบริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนถือหุ้นในสัดส่วน 35% บริษัทเตรียมวางแผนผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ประมาณ 4,000?5,000 คัน หลังจากที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้ในปีที่ผ่านมาและได้ปรับปรุงคุณสมบัติของรถแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มส่งทยอยมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้ตั้งแต่เดือน ก.พ. 65 และจะเริ่มผลิตรุ่น MYRA Gen2 ในเดือนพ.ค. 65 โดยมีแผนทยอยส่งมอบรถให้กับผู้ใช้เดือนมิ.ย. 65
"กระแสตอบรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ ETRAN นั้นถือว่าค่อนข้างดี โดยมาจากสมรรถนะของรถที่ตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งาน ทำให้คาดว่าจะส่งผลสนับสนุนต่อยอดการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต" นายชัยสิทธิ์ กล่าว