นายโสภณ ราชรักษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) (FPTI) บริษัทในกลุ่มบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) กล่าวว่า บริษัทจัดพิธีลงเสาเอกก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ หรือ Built-to-Suit ให้แก่ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ภายในโครงการ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ (บางพลี 2) จังหวัดสมุทรปราการ
ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้มีพื้นที่รวมกว่า 11,000 ตร.ม. ประกอบด้วยพื้นที่จัดเก็บสินค้าแบบอุณภูมิปกติ (Ambient Storage) และแบบควบคุมอุณหภูมิ (Temperature Controlled Storage) เพื่อรองรับหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และจัดเก็บวัตถุดิบอุตสาหกรรมที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยจะพัฒนาแล้วเสร็จในไตรมาส 3/65
ศูนย์กระจายสินค้าดีเคเอสเอช ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานอาคารสีเขียว (Green Building) โดยมุ่งให้ความสำคัญต่อการเสริมประสิทธิภาพการใช้อาคารและพลังงานตามแนวทางความยั่งยืน พร้อมต่อการรับรองด้วยมาตรฐาน LEED ซึ่งเป็oมาตรฐานระดับสากลสำหรับรับรองอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพสูงและมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการทำงาน
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัทฯชั้นนำระดับโลกอย่าง ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยก่อนหน้านี้ ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) ได้ใช้บริการคลังสินค้า Built-to-Suit ที่โครงการเฟรเซอร์ส โลจิกติกส์พาร์ค วังน้อย ขนาด 16,000 ตารางเมตร
สำหรับการได้มีโอกาสในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้ FPIT มั่นใจว่าบริษัทจะสนับสนุนให้ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมต่อการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในประเทศไทย
"FPIT ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาโครงการ Buit-to-Suit เสมอ เราคำนึงถึงการใช้งานพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยประหยัดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน และช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานให้แก่ลูกค้า และเรายังให้ความสำคัญต่อด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาตามแนวทางความยั่งยืน จึงได้ออกแบบศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ของดีเคเอสเอชนี้ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน LEED ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลด้านอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการทำงาน" นายโสภณ กล่าว
FPIT มุ่งพัฒนาอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยคำนึงถึงแนวคิดด้านความยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของ FPIT ได้รับความร่วมมือจากทีมงานมืออาชีพทุกส่วนตั้งแต่ ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายควบคุมการผลิตและการก่อสร้าง ตลอดจนฝ่ายควบคุมคุณภาพเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอาคารและงานระบบทุกส่วนสอดคล้องกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน อาทิเช่น การไหลเวียนอากาศ การใช้น้ำและพลังไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้วัสดุที่ไม่สร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม การติดตั้งระบบไฟอัจฉริยะ และการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ เป็นต้น