โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) จากแนวโน้มผลงานในปี 65 มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร จากภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาอีกครั้งทั้งในและต่างประเทศ หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเริ่มคลี่คลาย โดยที่โรงแรมในมัลดีฟส์เริ่มกลับมาฟื้นตัวก่อนเป็นลำดับแรก หลังกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เร็ว ทำให้อัตราการเข้าพักและค่าห้องพักสูงขึ้น
ส่วนโรงแรมในอังกฤษมีแนวโน้มกลับมาฟื้นดีอีกครั้งในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่ไตรมาส 2/65 ส่วนโรงแรมในไทยมีโอกาสกลับมาดีขึ้น หลังรัฐบาลกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยระบบ Test&GO
ขณะที่ราคาหุ้นของ SHR ถือว่าค่อนข้างถูกกว่าหุ้นกลุ่มโรงแรมด้วยกัน และยังต่ำกว่า IPO ที่ 5.20 บาทดันอัพไซด์สูง และการฟื้นตัวของผลประกอบการในปี 65 คาดว่าจะกลับมามีกำไรได้เป็นปัจจัยที่หนุนต่อความน่าสนใจ
หุ้น SHR ปิดเที่ยงวันนี้ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท (+1.73%) ขณะที่ SET +0.77%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) กสิกรไทย ซื้อ 5.54 หยวนต้า ซื้อ 5.00 ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ซื้อ 5.00 ฟินันเซีย ซื้อ 4.60 โนมูระ ทยอยซื้อ 4.00
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า มองแนวโน้มผลการดำเนินงานของ SHR ในปี 65 มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ซึ่งอย่างเร็วคาดว่าจะเห็นกำไรในไตรมาส 2/65 หรือไตรมาส 3/65 ซึ่งเป็นช่วงที่โรงแรมในอังกฤษจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดยโรงแรมในอังกฤษยังคงเป็นรายได้หลักของ SHR ในปัจจุบัน โดยคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะผ่านพ้นไปในไตรมาส 1/65 และจะเริ่มเห็นการเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มยุโรปเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 และช่วงไตรมาส 3/65 ซึ่งเป็นไฮซีซั่น เข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในภาพรวมของ SHR ให้พลิกฟื้นกลับมามีกำไรได้
ขณะที่ปัจจุบันโรงแรมในมัลดีฟส์ 2 แห่ง ถือว่าเป็นโรงแรมที่กลับมาสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัทเป็นหลัก หลังการท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางไปมัลดีฟส์เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่ออัตราการเข้าพักของโรงแรมสูงขึ้นและค่าห้องพักปรับเพิ่มขึ้น หนุนผลการดำเนินงานของบริษัท
ส่วนโรงแรมในประเทศไทยยังต้องรอดูในช่วงเดือน ก.พ.นี้ว่าการกลับมาเปิดระบบ Test&Go อีกครั้งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากน้อยแค่ไหน
อีกทั้งความสนใจของ SHR ยังคงเป็นในเรื่องราคาหุ้นที่ถือว่าถูกกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม และยังต่ำกว่าราคา IPO ทำให้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายค่อนข้างมาก
นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า SHR เป็นหุ้นที่ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของ Valuation ที่ยังค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับหุ้นโรงแรมอื่นและราคาหุ้นยังต่ำกว่า IPO ค่อนข้างมาก ขณะที่ปัจจัยการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานในระยะสั้น คาดว่าจะกระทบในช่วง 1-2 เดือนต้นปีนี้ และปัจจุบันการแพร่ระบาดไม่ได้รุนแรง น่าจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นอีกครั้ง
โรงแรมในมัลดีฟส์ถือว่าเห็นการฟื้นตัวกลับมาเร็วที่สุด จะเห็นได้จากอัตราการเข้าพักและเรทราคาห้องพักที่กลับมาปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่มัดีฟส์กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยว ขณะที่โรงแรมในประเทศไทยคาดว่าจะเห็นนักท่องเที่ยวกลับมามากขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.นี้ หลังจากรัฐบาลกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยระบบ Test&Go อีกครั้ง ด้านโรงแรมในอังกฤษจะเริ่มกลับมาในช่วงไตรมาส 2/65 และไตรมาส 3/65 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของฝั่งยุโรป ซึ่งคาดว่าการกลับมาของการท่องเที่ยวของประเทศที่ SHR มีโรงแรมในปีนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนให้โอกาสของผลการดำเนินงานกลับมาพลิกมีกำไรได้
ด้านบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุถึงแนวโน้มการพลิกกลับมามีกำไรของ SHR ในปี 65 หลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผลขาดทุนมาต่อเนื่อง และยังเผชิญกับปัจจัยกดดันจากโควิด-19 ทำให้ราคาหุ้นยังต่ำกว่า IPO ซึ่งมองว่าผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเริ่มกลับมาฟื้นขึ้น โดยมองผลการดำเนินงานจะกลับมาพลิกเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65
ปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม มาจากโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายในหลายประเทศ ซึ่งเห็นได้จากโรงแรมในมัลดีฟส์ 2 แห่งเริ่มเห็นตัวเลขอัตราเข้าพักมากขึ้น และค่าห้องพักก็ปรับตัวสูงขึ้นตาม ส่วนโรงแรมในอังกฤษจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวมากขึ้นในช่วงไฮซีซั่นฤดูร้อนกลางปีนี้ จะเห็นการเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปกลับมาคึกคักขึ้น
ส่วนในไทย หากการเปิดประเทศกลับมาในช่วงไฮซีซั่นนี้ จะทำให้โรงแรมในประเทศไทยเริ่มมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทำให้ช่วยหนุนการค่อยๆ ฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน และสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้