บริษัท อาดามัส มีเดีย จำกัด (ADAMAS Media) บริษัทในเครือ บมจ. อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) ระบุว่า ในปี 51 ตั้งเป้าจะก้าวขึ้นเป็น Content Management เต็มตัว เพื่อเปิดมิติใหม่ในการบริหารจัดการ Content Management ในประเทศไทย จากที่เคยมีภาพเป็นโปรโมเตอร์ พร้อมตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 350 ล้านบาท
“ภาพรวมที่ผ่านมา อาดามัส มีความชัดเจนในเรื่องการจัดคอนเสิร์ตจากต่างประเทศ ในปีนี้เราเป็นโปรโมเตอร์จัดคอนเสิร์ตของ 2 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่มากของเอเชียคือ เรน และ ดงบันชิงกิ ส่วนโครงการแคนนอน ยูลีก ในปีนี้ เราได้จัดกิจกรรมในส่วนของ วอลเล่ย์บอล และฟุตบอล เสร็จสิ้นไปแล้ว ยังเหลืออีก 2 กิจกรรมใหญ่คือ มิสแคนนอน ยูลีก และการประกวดวงดนตรี ที่กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าประมาณต้นก.พ.ปีหน้าคงจะได้ชมกัน” นายประสงค์ รุ่งสมัยทอง กรรมการผู้จัดการ กล่าว
ทางด้านผลประกอบการในปีนี้ น่าจะมีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจการจัดคอนเสิร์ตประมาณ 90%
สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2551 บริษัทจะทำการ “รีโมเดลธุรกิจ" เป็น “คอนเทนท์ เมเนจเม้นท์" (Content Management) โดยเน้นเรื่องการจัดการและการตลาดในเชิงครีเอทีฟมากขึ้น พร้อมกับขยายไลน์ของคอนเทนท์ไปในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ด้วย ไม่จำกัดแค่งานคอนเสิร์ต หรือ การจัดอีเวนท์ เนื่องจากเห็นว่าทุกวันนี้มีผู้ผลิตเยอะ แต่ผู้ที่ทำการตลาดมีน้อยมาก ซึ่งอาดามัส เองเป็นบริษัทที่ศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องของ connection และ marketing ประกอบกับผู้เล่นในธุรกิจนี้ของบ้านเรายังมีน้อยหรือเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้
“บ้านเรายังไม่ค่อยมีใครทำเกี่ยวกับ คอนเทนท์ เมเนจเม้นท์ มากนัก คอนเซ็ปท์ของเราคือ ไม่เน้นที่การผลิต content แต่เน้นที่การบริหารจัดการ ทำงานกับใครก็ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ" นายประสงค์ กล่าว
ในปี 51 ADAM จะเริ่มขยายไลน์ในการบริหารจัดการ content ออกไปในอีก 2-3 ธุรกิจ ทั้ง sport content ซึ่งหลังจากเราได้ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล FA Cup 4 ปีติดต่อกันโดยเริ่มจากปีหน้าเป็นต้นไป โดยได้สิทธิ์แบบ All Media Right ถือว่าเป็นงานระดับนานาชาติอีกงานหนึ่งที่ทาง อาดามัส เข้าไปบริหารจัดการ อีกทั้งยังได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันของทีมชาติอังกฤษทุกนัด(ในฐานะทีมเหย้า)ไม่ว่าจะเป็นนัดกระชับมิตร(Friendly Match), ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก และฟุตบอลยูโรรอบคัดเลือก
งานด้าน Movie Content โดยในปีหน้านี้จะเข้าไปบริหารจัดการสิทธิ์ในภาพยนตร์ไทย 2 เรื่อง การจัดคอนเสิร์ตตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะจัดคอนเสิร์ต 2 งาน ของศิลปินที่ได้รับความนิมยมสูงมากไม่แพ้ rain หรือ ดงบังชินกิ ส่วนโครงการ u-league ในปีหน้าเรายังเดินหน้าต่อไป ซึ่งคงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
"จากแนวทางการบริหารจัดการขององค์กรที่เน้นเรื่องการสร้าง corporate branding ที่ชัดเจน เชื่อในเรื่อง network marketing ให้ความสำคัญกับคนเป็นลำดับแรก และที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคู่ค้าทุกราย ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจทั้งปีนี้และปีหน้าอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าทุกธุรกิจก็ต้องเดินไป ต้องทำงานให้หนักขึ้น สินค้าหรือบริการต้องดีจริงแล้วจะขายได้ อย่างที่เราจัดคอนเสิร์ตดงบังชินกิ บัตรขายหมดตั้งแต่สัปดาห์แรก สปอนเซอร์ก็เต็ม ผมเชื่อว่าทั้งคู่ค้าและผู้บริโภคฉลาดและรอบคอบในการใช้เงินมากขึ้น ไม่ใช่ไม่ใช้ เพราะฉะนั้น ถ้าสินค้าหรือบริการออกมาแบบครึ่งๆกลางๆก็จะขายยาก ต้องให้ดีจริงผมว่ายังไงก็ขายได้"นายประสงค์ กล่าวสรุป
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--