นายอภิรัตน์ ธีระรุจินนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 65 ยังมีทิศทางการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารยังคงได้รับอานิสงส์จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้มีความนิยมซื้ออาหารกลับบ้านเพื่อเว้นระยะห่าง รวมถึงการสั่งซื้อในรูปแบบเดลิเวอรี่ยังคงคึกคัก
ขณะที่กลยุทธ์สำคัญของบริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับสูงและมีความมั่นคง โดยเฉพาะการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบที่มีความผันผวนด้านราคาสูงตามราคาตลาดโลก ทั้งน้ำมัน และเม็ดพลาสติก ซึ่งปีที่ผ่านมาก็สามารถควบคุมได้ดี รวมทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณเครื่องจักรใหม่ แต่ต้องพิจารณาสถานการณ์และความเหมาะสมอีกครั้ง เนื่องจากต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านแรงงานให้สอดคล้องกันด้วย
"บริษัทคาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหาร เพราะความต้องการใช้ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้น และยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษ ซึ่งมีการเพิ่มเติมรูปแบบ เช่น ถาดใส่ขนมหวาน ถ้วยไซส์อื่น ๆ เป็นการเพิ่มไซส์ให้มีความหลากหลายต่อการนำไปใช้งานได้มากขึ้น ซึ่งจะทยอยออกมา และคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี รวมทั้งจะมีการพัฒนาระบบรับคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มาใช้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าช่วยสนับสนุนยอดขายให้เติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน" นายอภิรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจลงทุนแตกไลน์ธุรกิจใหม่และต่อยอดธุรกิจเดิม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพันธมิตร โดยบริษัทมีความพร้อมเปิดโอกาสการลงทุนทุกรูปแบบ เพราะมองว่าตอนนี้บริษัทมีความได้เปรียบในเรื่องของฐานข้อมูลลูกค้าที่เป็นแม่ค้าในตลาดล่างที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ หากจะมีธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมจะช่วยผลักดันการเติบโตในอนาคตได้อย่างก้าวกระโดด และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ