นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย (TMBAM) คาดในปี 51 จะเติบโตต่อเนื่อง จากสิ้นปี 50 มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (NAV) คาดว่าจะอยู่ที่ 139,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 37% จากสิ้นปี 49 เนื่องจากปีหน้ามีการบังคับใช้ พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝาก ทำให้สามารถระดมทุนได้เพิ่มขึ้น เพราะการลงทุนในกองทุนรวมมีความน่าสนใจมากขึ้น และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน โดยเฉพาะในปีหน้าที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
"เป้าของปีหน้าค่อนข้าง aggressive กว่าปีนี้ และขณะนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ก็คือ ธนาคารทหารไทย (TMB) ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม ING แบงก์ แล้ว ซึ่งกลุ่ม ING แบงก์ มีความชำนาญในด้าน retail bank จึงน่าจะสนับสนุนให้มีการใช้ช่องทางสาขาธนาคารในการขายกองทุนและประกันมากขึ้น" นางโชติกา กล่าว
นางโชติกา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกล่าวถึงการควบรวมระหว่างบลจ.ทหารไทย และ บลจ.ไอเอ็นจี แต่อย่างใด ทุกอย่างต้องดำเนินตามเงื่อนไขในการเพิ่มทุนที่ได้มีการตกลงกันไว้
โดย TMB จะต้องยกเลิกข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นเดิมในบลจ.ทหารไทย และดำเนินการซื้อหุ้นคืนให้ครบ 100% โดยเร็ว จากปัจจุบันถืออยู่ 56% ที่เหลือ คือ ธนาคารดีบีเอส ถืออยู่ที่ 18% บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (Ocean Life Insurance Co.,Ltd.) ถืออยู่ประมาณ 11-12% และบริษัท พรูเด็นเชียล ทีเอสไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถืออยู่ประมาณ 11-12%
*เล็งออกกองทุนตราสารหนี้ FIF อีก 1กองปลายปีนี้
นางโชติกา กล่าวว่า ภายในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภท premier อายุ 3-6 เดือน อีก 1 กอง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น 1.5% จากปัจจุบัน 3.5%
"ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอจาก ก.ล.ต. ถ้าไม่ทันปีนี้ ก็คงจะเลื่อนเป็นเดือน ม.ค.51 ซึ่งเราหวังว่าเมื่อออกมาแล้วจะสามารถระดมทุนได้เยอะ เพราะ return pick up จากเดิมมาก รับรองว่าไม่ใช่การเล่นเงิน แต่เป็นการ Hedge กลับ หรือ Arbitrage" นางโชติกา กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--