ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลและมูลค่าของ ปตท. หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ ปตท. แยกทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโอนคืนให้รัฐ โดย ปตท. ยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
วันนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ บมจ.ปตท.(PTT)แยกทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโอนคืนให้รัฐ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหยุดการซื้อขายหุ้น ปตท. เป็นการชั่วคราว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์อีกครั้ง เมื่อ ปตท. ชี้แจงข้อมูล รวมทั้งแจ้งถึงผลกระทบและขั้นตอนการดำเนินการของบริษัทอย่างชัดเจนเพียงพอมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ และข้อมูลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนในวงกว้างแล้ว เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีเวลารับทราบข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ รวมทั้งผลกระทบต่างๆ
ก.ล.ต. ขอชี้แจงว่า คำพิพากษาดังกล่าวมิได้มีผลกระทบต่อสถานการณ์เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของปตท. แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี การที่ปตท. แยกทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโอนคืนให้รัฐ อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ ปตท. ขณะนี้ปตท. อยู่ระหว่างพิจารณาผลกระทบดังกล่าว และจะได้ชี้แจงให้ทราบต่อไป
สำหรับกรณีกองทุนรวม ผู้ลงทุนยังคงซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของ ปตท. และตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดการซื้อขายหุ้น ปตท. เป็นการชั่วคราว ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้ไม่สามารถคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ราคาขายและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีการลงทุนในหุ้น ปตท. ได้
ก.ล.ต.จะได้ติดตามความคืบหน้าและชี้แจงให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป ก.ล.ต.จึงขอให้ผู้ลงทุนติดตามคำชี้แจงของปตท. บทวิเคราะห์หุ้น ปตท. จากบริษัทหลักทรัพย์และการประกาศเปิดให้มีการซื้อขายหุ้น ปตท. อีกครั้งของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจในการลงทุน
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--