บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่ง Sideway (Up) ในกรอบ 1,630- 1,655 จุด โดยมองว่านักลงทุนจะให้น้ำหนักกับปัจจัยเงินเฟ้อของสหรัฐน้อยลงหลังจากรับข่าวไปมากแล้ว
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนกลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง (+1.6%) รับแรงซื้อกลับจากกลุ่มเทคโนโลยี โดยนักลงทุนคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อระดับหหนึ่งหลังจากที่รายงานตัวเลข PCE เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ด้านทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีเริ่มเห็นการปรับฐานอีกครั้ง (นักลงทุนซื้อ Bond)
CGS ระบุว่า เรื่องของเงินเฟ้อนักลงทุนจะเริ่มให้ความสนใจลดลงและหันไปมองปัจจัยอื่นๆ เนื่องจากก่อนหน้าได้ปรับฐานลงมาตอบรับไประดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับไม่ได้การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในเร็วๆ นี้ โดยกว่าจะเห็นการรายงานตัวเลข CPI (เงินเฟ้อสหรัฐ) จะอยู่ในช่วง 10 ก.พ.
ดังนั้น เป็นไปได้ที่สัปดาห์นี้ภาพของการลงทุนน่าจะผ่อนคลายมากขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าใกล้ปลายสัปดาห์ต้องติดตามภาคแรงงานสหรัฐที่มีกำหนดรายงานในวันศุกร์ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐจะอยู่ที่ 1.66 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.9% โดยที่มีค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ 0.5%MoM หากออกมาต่ำกว่าคาดจะยิ่งทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้นกับประเด็นของเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ จะเป็นเรื่องของประชุมโอเปคพลัสในวันพุธ และจะทราบผลทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้า) เบื้องต้นตลาดประเมินว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรล/วัน หากออกมาตามนี้ก็คาดว่าไม่น่ามีผลอะไรมาก
ส่วนในประเทศสัปดาห์นี้หลักๆเป็นเรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Q4/64 ซึ่ง Bloomberg คาดว่าจะเห็น (ADVANC IRPC INTUCH) รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนด้วยทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐที่ดูจะมีผลต่อการลงทุนน้อยลงแรงกดดันจึงน้อยลงไปเช่นกันทำให้
กลุ่มน่าสนใจ Trading ระยะสัปดาห์ ได้แก่ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ราคา 2 กลุ่มสัปดาห์ก่อน เริ่มปรับตัวขึ้นมาโดดเด่นคาดว่ามาจากแนวโน้มผลประกอบการที่จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ Q4/64 เป็นต้นไป กลุ่มส่งออก (TU) ผลบวกเงินบาทอ่อนค่า ท่องเที่ยว (AOT MINT SPA) ผลบวกจากการเริ่ม Test & Go ตั้งแต่ ก.พ.
CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 41 บาท) เป็นหุ้นค้าปลีกที่ยัง Laggard และคาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ Q4/64 เป็นต้นไปหนุนจากการคลาย Lock Down และยังได้ประโยชน์จากโครงการ ช็อปดีมีคืน โดยล่าสุดบริษัทได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เข้าลงทุนศูนย์การค้าใน UK ทำให้แรงกดดันด้านการเงินเบาบางลง
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146 บาท) การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อสัปดาห์ก่อนให้น้ำหนักเป็นบวก คาดกำไร Q1/65 ปรับดีขึ้น YoY และ QoQ จาก 1) ยอดขายและราคาขายเฉลี่ยที่โตขึ้น 4% และ 2% QoQ ตามลำดับ และ 2) ขาดทุนด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 6.0 พันล้านบาทใน Q4/64