ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวขึ้น แนวเดียวกับตลาดตปท. รับตัวเลขศก.สหรัฐฯดี

          นางสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯรับผลจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาดีในตัวเลขการจ้างงาน ประสิทธิภาพการผลิต ก็ส่งผลให้ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเกือบ 200 จุด และตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เป็นบวกกันทั่วหน้า ซึ่งก็อาจจะทำให้ตลาดหุ้นบ้านเราน่าจะเป็นบวกได้ 
          แต่ระหว่างเทรดตลาดฯอาจจะผันผวน เพราะหุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลง อาจจะมีการชะลอ แต่ก็ขอแค่ให้มีการดันในกลุ่มแบงก์ อสังหาฯ กลุ่มอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มดี ภาคการผลิตที่ได้รับผลประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงก็อาจจะขยับขึ้นได้แทน 
          ทั้งนี้ ได้มองแนวต้าน 850 จุด ส่วนแนวรับ 820 จุด 
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(5 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,444.96 จุด เพิ่มขึ้น 196.23 จุด(+1.48%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,485.01 จุด เพิ่มขึ้น 22.22 จุด(+1.52%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,666.36 จุด เพิ่มขึ้น 46.53 จุด (+1.78%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 742.68 ล้านบาทเมื่อ 4 ธ.ค.50
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 87.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.83 ดอลลาร์ 
          - สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานข้อมูลด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลงทุน และการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผ่าน Set Note Corporate Update ประจำไตรมาส 3/2550 พบว่า บริษัทจดทะเบียนระดมทุนในไตรมาส 3/2550 มีมูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 64.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2549 โดยกลุ่มธุรกิจการเงินมีการระดมทุนมากที่สุดกว่า 8 พันล้านบาท
          - เปิดผลศึกษาเอิร์นส์ แอนด์ ยัง บริษัทจัดทำบัญชีชั้นนำของโลก คาด 2 ปีข้างหน้า เอเชียยังคงเป็นแหล่งลงทุนยอดนิยมทำผลตอบแทนก้อนโตให้เฮดจ์ฟันด์ ทั้งที่กฎระเบียบกับการคงบุคลากรมีความสามารถยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการบริหารงานขยายสินทรัพย์ ด้านเอฟจีจีเผยสินทรัพย์เฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกบริหารจะเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งจาก 1.81 ล้านล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ปีนี้ เป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2555
          - ที่ประชุมคณะกรรมการ สศช. ได้ให้ความเห็นชอบแผนการลงทุนปี 2551 ก่อนเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา โดยเป็นแผนส่งเสริมให้การลงทุนขยายตัว 5.8% และคาดว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัว 4-5%
          - บีโอไอ เผยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และชิ้นส่วน ถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่จะส่งผล ให้ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2550 ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5 แสนล้านบาท อีกทั้งมีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมกลุ่มนี้
          - ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และนักลงทุน เป็นปัจจัยสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2551 ที่กระทรวงการคลังคาดว่าจะขยายตัว 5% ซึ่งขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่าความเชื่อมั่นจะเป็นปัจจัยบวก หรือลบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ หากรัฐบาลจัดการเลือกตั้งให้ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีความวุ่นวาย ความเชื่อมั่นน่าจะกลับมาได้เร็ว
          - บสก.ชี้ปีหน้าสัญญาณเอ็นพีแอลทั้งระบบจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาบ้านใหม่ขยับขึ้นแน่นอน จากราคาน้ำมันที่ยังคงมีการปรับตัวสูงขึ้น ยืนยันไทยไม่เกิดภาวะฟองสบู่แตกซ้ำรอยเดิม เพราะการเก็งกำไรอสังหาฯตอนนี้มีแค่เฉพาะจุดส่วนดอกเบี้ยขาขึ้นไม่กระทบลูกค้าเงินผ่อน ตั้งเป้าปีหน้าโกยรายได้ 10,800 ล้านบาท และตั้งสำรอง IAS39 เพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท หลังปีนี้ตั้งไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท