ผู้บริหารโบรก มองตลาดหุ้นไทยปี 51 มีโอกาสแตะ 1200 จุดหากการมืองนิ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 13, 2007 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์ คาดตลาดหุ้นไทยปี 51 มีโอกาสถึง 1,200 จุด หากการเมืองหลังการเลือกตั้งมีเสถียรภาพที่ดีแม้อาจได้รัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ค่าพีอียังจูงใจและพื้นฐานอยู่ในเกณ์ที่ดี ส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้เช่นกัน แนะหุ้นน่าสนใจในกลุ่มยานยนต์ อิเล็คทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)(KEST)กล่าวในงานแถลงข่าวการจัดงาน“ATIC @Bangkok 2008:มุมมองบริษัทข้ามชาติที่มีต่อตลาดทุนไทย" มหกรรมสัมมนาทางการเงินแห่งภูมิภาคเอเชีย ในวันนี้ว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 51 ยังคงเติบโตได้ดี คาดว่าภายในไตรมาส 1/51 ดัชนี SET น่าจะขึ้นไปได้ถึง 1,000 จุด และหากการเมืองมีเสถียรภาพหลังการเลือกตั้ง ก็อาจจะเห็นแตะ 1,200 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังมีค่าพีอีต่ำแค่ 11-12 เท่า
ส่วนในแง่ของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน(วอลุ่ม) ในปีหน้ายังคาดการณ์ได้ยาก แต่ในปี 50 วอลุ่มเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจากต้นปีจนถึงปัจจุบันวอลุ่มเฉลี่ยมาอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่งสูงกว่าวอลุ่มเฉลี่ยในปี 49 ที่อยู่ในระดับ 1.62 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าแม้ปัจจัยแวดล้อมในปีนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่วอลุ่มก็ยังออกมาดี
นายมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ไทยมีพีอีต่ำและพื้นฐานยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำให้นักลงทนต่างชาติยังมีความสนใจเข้ามาลงทุนมากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องขอรอดูความชัดเจนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งว่าจะมีผลออกมาอย่างไร ถ้าทุกอย่างไปได้ด้วยดี ตลาดหุ้นก็น่าจะเติบโต นักลงทุนต่างชาติก็จะเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้เติบโตได้ดีถึง 21-25% เทียบกับปีก่อน ที่ค่าพีอีในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจมาก
ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) น่าจะมีมากขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็คทรอนิกส์ รวมถึงการท่องเที่ยว ที่ยังเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ แต่อุตสาหกรรมที่ต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นอันดับหนึ่งน่าจะเป็นด้านยานยนต์
นายสุรพล ขวัญใจธัญญา รองประธานกรรมการบริหาร บล.แอ๊ดคินซัน(ASL) กล่าวว่า ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากน้อยเพียงใดขึ้นกับปัจจัยสำคัญดังนี้คือ ผลตัดสินคดีแปรรูป บมจ.ปตท.(PTT)ในวันพรุ่งนี้ หากออกมาว่าไม่มีการเพิกถอน PTT ออกจากตลาดหุ้นก็จะเป็นผลดีต่อการลงทุน เพราะ PTT เป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากที่สุด
และ อีกปัจจัยหนึ่งคือ การเลือกตั้ง หากผ่านไปด้วยดีแม้ว่าจะมีรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ แต่ถ้ามีเสถียรภาพก็จะเป็นปัจจัยบวก ยิ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากโดยพื้นฐานพีอีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างต่ำ อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่ดี
ส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีในปีหน้า เนื่องจากจำนวนผู้ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเกือบแสนล้านบาทยังไม่ได้เริ่มลงทุน และหากมีโครงการเมกะโปรเจ็คต์ออกมาก็จะยิ่งเสริมให้การลงทุนมีมากขึ้น
นายสุรพล มองว่าปี 51 ดัชนี SET น่าจะมีโอกาสแตะ 1000 จุด แต่ขึ้นกับปัจจัยเรื่องการเมืองด้วย แต่โดยรวมตลาดก็คล้ายกับปีนี้ โดยหุ้นที่จะได้รับความสนใจก็คงอยู่ใน SET 50 และ SET 100

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ