นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดผลตอบแทนหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 4 ปี ที่ระดับ 4.10% ต่อปี โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ในระหว่างวันที่ 17-18 และ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT)
หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ BBB ซึ่งเป็นระดับ "ลงทุนได้" (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรอยู่ที่ "BBB+" แนวโน้ม "Negative"
ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดยเชื่อว่า ปัจจัยสนับสนุนสำคัญนอกจากผลตอบแทนที่น่าพอใจ และอายุของหุ้นกู้ที่เหมาะสมกับการลงทุนในช่วงเวลานี้แล้ว ผู้ลงทุนยังมั่นใจในศักยภาพและโอกาสในการขยายงานด้านโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ รับงานอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่กับทางการพิเศษแห่งประเทศไทย และการรถไฟแห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงการเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทยได้เป็นอย่างดี
"เราเชื่อว่า ปัจจัยเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนจากการลงทุน อายุหุ้นกู้ รวมถึงความแข็งแกร่งและโอกาสในการขยายงานในอนาคตของบริษัทฯ เป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ผู้ลงทุนสนใจหุ้นกู้ UNIQ ขณะเดียวกัน ผู้ลงทุนยังสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนที่พิจารณาจากอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ที่ BBB และองค์กรที่ระดับ BBB+ โดยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นระดับที่ลงทุนได้ ทำให้หุ้นกู้ UNIQ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน และเป็นทางเลือกที่สนใจอีกทางหนึ่ง" นายเติมพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ โครงการที่โดดเด่นของบริษัทที่เป็นที่รู้จัก คือ สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดินทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน ลูกค้าของบริษัทเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น เนื่องจากผลงานของบริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐและสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) มูลค่าประมาณ 24,204.25 ล้านบาท ซึ่งจากงานในมือดังกล่าว ประกอบกับงานที่บริษัทได้ลงนามสัญญาเพิ่มในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 จะทำให้บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) มูลค่าประมาณ 46,403.73 ล้านบาท จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องไปอีก 3-4 ปี