ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนที่รอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซาของสหรัฐว่า จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาคการธนาคารขาดทุนมากกว่านี้และดึงให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงและสัญญาณความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมนอกภาคการเงินไม่สามารถช่วยทำให้ตลาดหุ้นหลุดพ้นช่วงขาลงไปได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 65.84 จุด หรือ 0.49% แตะระดับ 13,248.73 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 9.63 จุด หรือ 0.65% แตะระดับ 1,462.79 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดอ่อนตัวลง 17.30 จุด หรือ 0.66% แตะระดับ 2,619.83 จุด
ขณะเดียวกัน เจพีมอร์แกนได้ลดอันดับวานิชธนกิจใหญ่ๆ อาทิ โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์, เมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค, และมอร์แกน สแตนลีย์ พร้อมกับเตือนว่าการทำสำรองหนี้สูญจากหนี้ซับไพรม์อาจจะช่วยพยุงหลักทรัพย์ได้ และความกังวลในระยะยาวเกี่ยวกับกาบหารความเสี่ยงอาจจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นโดยรวม
ไบรอัน เกนโดร นักยุทธศาสตร์ของไอเอ็นจี อินเวสท์เมนท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงการประเมินรายได้ไตรมาส 4 และการประเมินก็มีแนวโน้มว่าจะลดลงทั้งในภาคการเงินและกลุ่มผู้ก่อสร้างบ้าน โดยเมื่อเดือนที่แล้วมีการประเมินการขยายตัวของรายได้โดยรวมในไตรมาส4 ว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 10% แต่หลังจากที่ได้มีการเตือนว่าจะมียอดขาดทุนจากซับไพรม์ในภาคการเงิน การประเมินรายได้โดยรวมก็ตกลงมาอยู่ที่ระดับ 2.1% เท่านั้น
หุ้นโกลด์แมนร่วง 5.1% หุ้นเลห์แมนตกลง 2.9% หุ้นเมอร์ริล ลินช์ ร่วง 3.3% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 4.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--