เครือสหพัฒน์คาดปี 51 รายได้โตราว 5% จาก 1.4 แสนลบ.ในปี 50

          นายสันติ วิลาศศักดานนท์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง(SPI) คาดว่า ในปี 51 เครือสหพัฒน์จะมีรายได้เติบโตประมาณ 5% จากปี 50 ที่เชื่อว่าทั้งเครือฯจะมีรายได้ 1.4 แสนล้านบาท 
          "เขื่อว่าถ้ามีรัฐบาลใหม่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ก็น่าจะมีกำลังซื้อจากภาคประชาชนมากขึ้น แต่จากการปรับเพิ่มราคาสินค้าหลายรายการ อาจทำให้ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดน้อยลง"นายสันติ กล่าว 
          ทั้งนี้ ในปี 51 เครือสหพัฒน์จะลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ร่วมทุนกับประเทศญี่ปุ่นคือ สยามโซเคอิ โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้นฝ่ายละ 50% ซึ่งจะลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น
          พร้อมกันนั้น ยังมีแผนทำโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ในสวนอุตสาหกรรมสหพัฒน์ ที่จังหวัดลำพูนโดยคาดใช้เงินลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาท เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 
*ความเชื่อมั่นเอกชนมากับรัฐบาลใหม่
          นายสันติ  ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีหน้า โดยเชื่อว่า ภาคการส่งออกยังเติบโตประมาณ  10% แม้ว่านักวิคราะห์หลายรายจะระบุว่าปัญหาซับไพร์มจะทำให้ตลาดโลกหดตัว แต่เชื่อว่า ภาคการส่งออกของไทยจะยังเติบโตได้ โดยเน้นการส่งออกในประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีน ซึ่งมีกำลังซื้อเพิ่ม จากผลการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกในปีหน้า 
          สำหรับอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวในปีนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม จะกลับมาเป็นบวกได้ในปีหน้า และน่าจะโตได้ถึง 20% จากการสำรวจผู้ประกอบการ พบว่ามีคำสั่งซื้อเข้ามาเริ่มเต็มกำลังการผลิตแล้ว ส่วนภาคอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ ยางพารา ข้าว น้ำมันปาล์ม เชื่อว่าปีหน้าจะยังดีต่อเนื่อง เนื่องจากราคารับซื้อในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง
          "ความเชื่อมั่นภาคเอกชนจะกลับมา คงต้องรอดูรัฐบาลใหม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเชื่อว่ารัฐบาลใหม่สร้างความเชื่อมั่นได้ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจเติบโต และผลักดันให้เกิดการลงทุน"นายสันติ กล่าว