นายกฯยอมรับคำพิพากษาคดี ปตท.กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นระยะสั้น

          พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ยอมรับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีแปรรูป บมจ.ปตท.(PTT) ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะสั้น แต่เชื่อว่านักลงทุนน่าจะเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
          "ก็มีอยู่บ้าง แต่คงไม่มีผลอะไรที่สำคัญมากนัก ซึ่งตลาดหุ้นและนักลงทุนน่าจะเข้าใจ" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
          เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่เพิกถอนกฎหมายแปรรูป ปตท.ทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากเกรงจะเกิดผลกระทบในวงกว้าง จึงทำให้ ปตท.มีสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดต่อไป แต่ให้แก้ไขประเด็นต่างๆ ที่ขัดต่อข้อกฎหมาย โดยเฉพาะให้มีการโอนกรรมสิทธิในที่ดินเวนคืน และท่อส่งก๊าซธรรมชาติ-น้ำมันกลับคืนไปให้กับกระทรวงการคลัง เพราะถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทันทีตามคำสั่งศาล โดยไม่ปล่อยปัญหาทิ้งไว้เพื่อรอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดำเนินการสะสาง
          ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ธ.ค. รมว.พลังงานจะเสนอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขอมติเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามคำพิพากษาฯ
          "รัฐบาลเองก็มีเวลาที่จะนำเข้า ครม.ในวันอังคารหน้าเท่านั้น ที่จะดำเนินการไปตามคำสั่งของศาล ซึ่งกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานก็ต้องหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
          ส่วนกรณีที่เครือข่ายเอกชนจะดำเนินคดีทางแพ่งและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ และน่าจะเป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในอนาคต โดยผู้เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ