(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: แรงเทขายทำกำไรทุบคอมโพสิตปิดลบ 18.85 จุด

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้(7 ธ.ค.) โดยดัชนีถอยร่นลงจากระดับสูงสุดเนื่องจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับเดิมตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
          ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ขณะที่ธนาคารยังมีความวิตกกังวลต่อแรงกดดันด้านภาวะเงินเฟ้อ แต่ธนาคารได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 5% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากยังมีกระแสความกังวลต่อเศรษฐกิจในสหรัฐ  
          ส่วนในช่วงเช้านั้น ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทางการสหรัฐประกาศแผนให้ความช่วยเหลือผู้กู้ซื้อบ้าน
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงเที่ยงวันทำการ นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อขายด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากยังจับตาดูเหตุการณ์สำคัญๆในสัปดาห์หน้า อาทิ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันอังคาร และการที่สัญญาซื้อขายแบบบอ็อปชั่นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะครบกำหนดส่งมอบในวันพฤหัสบดี
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดร่วงลง 18.85 จุด หรือ 1% แตะที่ระดับ 1,934.32 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 1,969.56 - 1,934.32 จุด
          นายลี ซอง-แต ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวในงานแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศจะแกว่งตัวขึ้นมาอยู่เหนือระดับที่ตั้งเป้าไว้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี2551 เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น   
          นอกจากเกาหลีใต้จะเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ภายในประเทศแล้ว เรายังเห็นถึงแรงกดดันด้านอุปทานจากราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันที่น่าจะยังทรงตัวในระดับนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
          หลังจากที่ตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งสัปดาห์ เราคาดว่านักลงทุนจะเข้าซื้อขายในตลาดอย่างระมัดระวังเนื่องจากเป็นช่วงที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเข้าประชุมกันเพื่อหารือถึงข้อสรุปเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันอังคาร และเป็นช่วงที่เกาหลีใต้ทำ triple witching ซึ่งจะเป็นวันที่สัญญาซื้อขายแบบบอ็อปชั่นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะครบกำหนดส่งมอบในวันพฤหัสบดี
          ด้านโช ฮาน-โจ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์วูริ อินเวสเม้นท์ แอนด์ ซีเคียวริตี้เปิดเผยว่า "ดัชนีคอมโพสิตจะเคลื่อนไหวพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2,000 จุดอีกครั้งจากปัจจัยภายนอกที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ปัจจัยหนุนอาจชะลอตัวลงในสัปดาห์หน้า"
          นายโชกล่าวว่า บรรยากาศในตลาดโดยรวมจะได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะสามารถสกัดกั้นวิกฤตซับไพรม์ได้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการประกาศแผนช่วยผู้กู้ซื้อบ้าน
          "หุ้นกลุ่มสื่อสารยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุน ขณะที่หุ้นเซมิคอนดักเตอร์และหุ้นกลุ่มโบรกเกอร์มีความผันผวนหลังจากที่ปิดบวกขึ้นสดใสเมื่อช่วงที่ผ่านมา" นายโชกล่าว   
          โดยในวันนี้ตลาดมีบรรยากาศการซื้อขายที่เบาบางเพียง 355 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 6.1 ล้านล้านวอน
          หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ปิดร่วงลง 0.7% จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่หุ้นดังกล่าวปิดบวกแข็งแกร่งตลอดทั้ง 4 วันที่ผ่านมา
          หุ้นเคปโคปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันที่ 3% โดยนักลงทุนขานรับการเข้าร่วมเป็นบริษัทคู่ค้าในประเทศจีนเมื่อช่วงที่ผ่านมา
          ด้านหุ้นกลุ่มสื่อสารปิดลดลงจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ได้ปิดพุ่งขึ้นเมื่อหลายวันก่อน จากการที่เอสเค เทเลคอมทำข้อตกลงซื้อกิจการของฮานาโร เทเลคอม โดยแรงเทขายดังกล่าวส่งผลให้หุ้นเอสเค เทเลคอมปิดร่วงลง 4.9% และหุ้นเคทีปิดดิ่งลง 2.7%