ตลท.เพิ่ม PS คำนวณดัชนี SET50 เริ่มใช้ 1 ม.ค.51

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 13, 2007 18:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่ม PS เข้าคำนวณดัชนี SET50 และเพิ่ม  TIPCO-SAT-TSTH-MBK-METRO-NCH-NNCL-TYONG-LANNA เข้าคำนวณดัชนี SET100 เริ่ม 1 ม.ค. 2551 
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะทำงานด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้คัดเลือกหลักทรัพย์ชุดใหม่สำหรับการคำนวณดัชนี SET50 และดัชนี SET100 ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551 โดยหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50 ในครั้งนี้มีหลักทรัพย์ที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาใหม่ 1 หลักทรัพย์ และ 9 หลักทรัพย์ใหม่ ได้รับคัดเลือกเข้ามาใช้ในการคำนวณดัชนี SET100
สำหรับการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 และดัชนี SET100 ดังกล่าว พิจารณาจากหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 12 เดือนสูงสุด 200 อันดับแรก และนำหลักทรัพย์ดังกล่าวมาพิจารณาคุณสมบัติ ประกอบด้วยการเป็นหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
และเป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสม่ำเสมอโดยพิจารณาจากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายบนกระดานหลักเทียบกับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญทั้งตลาดในเดือนเดียวกันและหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามที่กำหนด โดยใช้ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2549 - 30 พฤศจิกายน 2550
นอกจากนี้ คณะทำงานยังได้พิจารณาคุณสมบัติตามเกณฑ์อื่น ๆ ประกอบ ได้แก่ การมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และต้องไม่เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเวลาอันใกล้ รวมทั้ง ไม่อยู่ในระหว่างการห้ามซื้อขายเป็นเวลานาน หรือไม่เป็นหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่จะถูกห้ามการซื้อขายเป็นเวลานานอีกด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2550 เป็นต้นไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะใช้คำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ให้ครอบคลุมถึงกรณีมีการควบกิจการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 หรือ SET100 กับบริษัทอื่น เพื่อให้ดัชนีสามารถสะท้อนความเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง หลังจากวันที่หลักทรัพย์ที่เกิดจากการควบกิจการเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีหลักเกณฑ์สรุป ดังนี้
กรณีที่ 1 หลังจากการควบกิจการแล้วมีการจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ และนำเข้าจดทะเบียน หากบริษัทจดทะเบียนใหม่มีสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ผ่านเกณฑ์ (> 20%) ให้นำหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนใหม่นั้นมารวมคำนวณแทนหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเดิมได้ ตั้งแต่สิ้นวันที่หุ้นสามัญใหม่นั้นเข้าซื้อขายเป็นวันแรก
กรณีที่ 2 หลังการควบกิจการแล้วไม่ได้จัดตั้งบริษัทใหม่ โดยยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ผ่านเกณฑ์ (> 20%) ให้หุ้นสามัญของบริษัทนั้นคงอยู่ในการคำนวณดัชนีต่อไป
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในกรณีที่ควบรวมกิจการตามกรณีที่ 1 หรือ กรณีที่ 2 แล้ว ทำให้มีหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีไม่ครบตามที่ต้องการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำหลักทรัพย์สำรอง (Replacement) เข้ามารวมคำนวณ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ