ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,699.20 จุด ลดลง 3.80 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 95,433.74 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,703.95 จุด และระดับต่ำสุด 1,690.69 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 507 หลักทรัพย์ ลดลง 1,290 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 510 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานตามตลาดหุ้นอื่นๆในต่างประเทศ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 8-9 วัน และเพิ่มขึ้นมาราว 70 จุด ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
นอกจากนี้คำกล่าวของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ดีดตัวขึ้น
ด้านแนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ดัชนีฯ น่าจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,685-1,715 จุด โดยยังคงต้องติดตามปัจจัยสำคัญคือเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทั่วโลก
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศที่เร่งตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีการใช้มาตรการปิดเมือง (Lock Down) เชื่อว่าจะไม่กระทบมากนัก รวมไปถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มมีความร้อนแรงมากขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 9,054.62 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 5,130.04 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,120.20 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,171.88 ล้านบาท ปิดที่ 237.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,828.96 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท