นายวิทยา จักรเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บมจ. อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ (EIC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 51 ไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเป้าที่บริษัทตั้งไว้ที่ 400 ล้านบาท โดยสาเหตุที่รายได้ลดลงเนื่องจากลูกค้ารายใหญ่มีความลังเลในการสั่งซื้อสินค้า
แต่อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทได้รับลูกค้าเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าตัวคุมแรงดันไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ป้องกันไฟกระชากหรือฟ้าผ่าในเครื่องโทรศัพท์
นอกจากนี้บริษัมยังมีออเดอร์จากลูกค้ารายใหม่ในการผลิตตัวกั้นไฟในแผงโซล่าร์เซลล์ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะสามารถ RUN ออเดอร์ดังกล่าวได้จำนวน 1 ล้านชิ้น
"ในปีหน้าเราคงให้ความสำคัญในการเพิ่มจำนวนลูกค้าและการเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อซึ่งตอนนี้เราก็สามารถผลิตแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ได้เอง ทำให้สามารถลดต้นทุนโดยรวมได้เยอะ ซึ่งน่าจะทำให้กำไรเราปรับดีขึ้นด้วย"นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้ในปีหน้าเราจะเพิ่มยอดขายในประเทศให้มากขึ้นเป็น 30% จาก 20% ในปีนี้ ทั้งในส่วนของลูกค้า Indirect (ลูกค้าที่ซื้อชิ้นส่วนเพื่อนำไปประกอบแล้วขายในประเทศ) กับลูกค้า Ondirect (ลูกค้าที่ซื้อชิ้นส่วนเพื่อนำไปประกอบแล้วขายต่างประเทศ)
นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าและรองรับการแข่งขัน โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท
ที่ผ่านมา การที่บริษัทสามารถผลิตแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ได้เองจากที่ลงทุนไป 100 ล้านบาทเมื่อปี 49 ทำให้สามารถลดต้นทุนได้กว่า 10% และคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 2 ปี ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาราคาซิลิคอนจะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม
นายวิทยา ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาทองแดงซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักมีความผันผวน แต่บริษัทไม่มีแผนจะสต็อกสินค้า แต่จะสั่งซื้อสินค้าในระยะสั้นๆ
ส่วนปัจจัยเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท ยอมรับว่ากระทบเล็กน้อยจากที่บริษัทนำเข้าสินค้า 100% แต่จากการที่บริษัทนำเข้าวัตถุดิบทั้ง 100% เช่นกันจึงทำให้สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตซิลิคอนเวเฟอร์ 3 หมื่นล้านชิ้นต่อเดือน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--