นางสาวสรญา เสฐียรโกเศศ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.ยู ซิตี้ (U) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 64 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท จากปี 63 ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน 6.61 พันล้านบาท โดยผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างทันท่วงที ตามทิศทางที่คณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเมื่อต้นปี 64
ในช่วงที่ผ่านมา U ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากบริษัทพึ่งพาธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก รายได้ของบริษัทลดลงกว่า 90% และโรงแรมเกือบทั้งหมดจาก 73 แห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากข้อจำกัดของรัฐบาล และการท่องเที่ยวที่หดตัวลง การฟื้นตัวของธุรกิจมีความ ไม่แน่นอน และไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากการเกิดขึ้นของโควิดสายพันธุ์ใหม่ตลอดเวลา และความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐ แต่หลังจากที่ผู้ถือหุ้นตัดสินใจอนุมัติให้มีการขายธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์อื่น และมีการเพิ่มทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน U ก็กลับพลิกฟื้นมามีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 64 บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจำหน่ายโรงแรมในทวีปยุโรปเพิ่มเติม จนถึงปัจจุบันบริษัทได้ขายทรัพย์สินไปแล้วกว่า 6.3 พันล้านบาท และตั้งเป้าที่จะดำเนินการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เหลืออยู่อีกกว่า 26 พันล้านบาทให้หมดในอีก 3 ปีข้างหน้า ควบคู่ไปกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่เหลือ บริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจสู่บริการทางการเงินด้วยการเข้าซื้อหุ้น บมจ. แอดวานซ์ ประกันชีวิต (A LIFE) รวมถึงเข้าซื้อหุ้นสามัญใน บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) และ บมจ.เจมาร์ท (JMART) ภายใต้กลยุทธ์ 3M คือ MOVE, MIX, MATCH ของกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เพื่อสนับสนุน และเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจทางการเงินเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป
"การพลิกฟื้นธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามแผน ซึ่งเราคาดหวังว่าจะได้เห็นธุรกรรมต่างๆที่จะช่วยเร่งขยายธุรกิจบริการทางการเงินของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้ภายในปีนี้" นางสาวสรญา กล่าว