(เพิ่มเติม) ศาลพร้อมคดี PTT/มูลนิธิฯมั่นใจ ขณะ"ปิยสวัสดิ์"-ผู้บริหารปตท.ร่วมหารือ

          ศาลปกครองสูงสุดเตรียมอ่านคำพิพากษาคดีแปรรูป บมจ.ปตท.(PTT) ในเวลา 10.00 น.โดยขณะนี้ทั้งฝ่ายผู้ร้องคดีและผู้ถูกร้องเดินทางมาพร้อมแล้ว พร้อมด้วยผู้สนับสนุนของแต่ละฝ่ายและประชาชนที่ให้ความสนใจมาติดตามผลการตัดสินคดี ท่ามกลางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง 
          ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณหน้าอาคารศาลปกครองสูงสุดว่า กลุ่มองค์กรเอกชน(NGO) และสหภาพรัฐวิสาหกิจ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ได้เดินทางมาชุมนุมกันหน้าอาคาร ประมาณ 40-50 คน พร้อมกับมีการแจกเอกสารเกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีการฟ้องเรียกร้องให้เพิกถอน ปตท. ให้กับประชาชนในบริเวณดังกล่าวด้วย
          ขณะที่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รมว.พลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร ปตท.ราว 10 คนนำโดยนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่  นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต และก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ได้ร่วมหารือกันที่บริเวณร้านกาแฟด้านล่างอาคารศาลปกครองเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางขึ้นไปรอยังฟ้องพิจารณาคดี โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับผู้สื่อข่าว 
          สำหรับการอ่านคำพิพากษาคดีระหว่างมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับพวกรวม 5 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะรัฐมนตรีกับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) เรื่องคดีพิพากษาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการแปรรูปกิจการของ ปตท. โดยผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ยกเลิก เพิกถอน พระราชกฤษฎีกาแปรรูปกิจการปตท.ทั้ง 2 ฉบับ จะมีขึ้น ณ ห้องพิจารณาคดี 2 ชั้น 31 สำนักงานศาลปกครอง 
          น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวก่อนรับฟังคำตัดสินว่า มั่นใจมาก เรามีความหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากการที่เราได้ยื่นฟ้องไป เพราะเรามีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ว่ามีการแปรรูปที่ไม่ถูกต้องถามกฎหมาย และการขายหุ้นปตท.ทำให้เกิดความเสียหายให้กับประเทศชาติ เนื่องจากสินทรัพย์ของปตท.หายไปประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท 
          ประกอบกับกระบวนการแปรรูปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยมีบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายที่เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกลับมาเป็นผู้ถือหุ้นของ ปตท. อีกทั้งการแปรรูปครั้งนี้ทำให้ ปตท.ซึ่งเดิมเคยเป็นหน่วยงานที่ตรึงราคาในยามที่ภาวะบ้านเมืองมีสินค้าราคาแพงที่เกิดจากน้ำมัน กลับไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว และยังกลายเป็นผู้ผูกขาด 
          ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าการฟ้องให้ยกเลิกแปรรูปปตท.ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและตลาดหุ้นนั้น นางสาวสารี กล่าวว่า เมื่อครั้งที่มูลนิธิฟ้องคดีดังกล่าวราคาหุ้นของปตท.อยู่ที่ 236 บาท แต่ ณ วันที่ศาลนัดพิจารณาคดีราคาขึ้นไปถึง 370 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาไอพีโอที่ 35 บาท เพราะสิ่งที่เราพบ ปตท.ได้ชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นในเวบไซด์ว่า ถึงแม้ปตท.กลับมาในสถานะเดิม ก็จะไม่เกิดผลกระทบใด ๆ  
          "เราไม่ใช่พวกบ้าคลั่งอย่างที่นักวิจารณ์หลาย ๆ คนได้ออกมากล่าวหา แต่เราเป็นพวกสู้ไม่ถอยในฐานะที่เป็นผู้บริโภค หลาย ๆ คนก็รู้สึกว่าการขายหุ้นปตท.ทำให้เราเสียสาธารณสมบัติ"นางสาวสารี กล่าว