หุ้น TOP ดีดขึ้น 3.79% หรือ 2.00 บาท มาที่ 54.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 533.04 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.14 น. จากราคาเปิด 53.50 บาท ราคาสูงสุด 54.75 บาท ราคาต่ำสุด 53.25 บาท
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ประกาศงบไตรมาส 4/64 มีกำไรสุทธิ 5 พันล้านบาท (-31% YoY, +144% QoQ) เป็นไปตามตลาดและเราคาด เพิ่มขึ้นอย่างมาก QoQ จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ามันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่สูงขึ้นจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูหนาว ส่วนลดลง YoY จากฐานที่สูงจากการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น GPSC ในไตรมาส 4/63
ทั้งนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 2.00 บาทต่อหุ้นสาหรับผลประกอบการปี 2021 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3.8% โดยมี XD date วันที่ 3 มี.ค.2565
เคทีบีเอสทีปรับประมาณการการสุทธิปี 2565 ขึ้น 27% เป็น 13.4 พันล้านบาท หลักๆเพื่อสะท้อน 1) สมมติฐานค่าการกลั่นตลาด (market GRM) ที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด 2) กำไรจากสต๊อกน้ำมัน (stock gain) ที่สูงขึ้นตามสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยดูไบที่สูงขึ้น และ 3) ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ราคาหุ้น outperform SET 5% ใน 6 เดือนที่ผ่านมา สอดคล้องกับ crack spread ที่ฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ ราคาปิดล่าสุดสะท้อน valuation ที่น่าสนใจที่ 2565 PBV 0.83x (ประมาณ -1.25SD ต่ากว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง)
ทั้งนี้มองว่า TOP จะได้ประโยชน์จากแนวโน้ม crack spread ที่อยู่ในระดับสูงในครึ่งแรกปี 65 แต่อาจจะมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันใน H2/65E จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงตามอุปทานที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนความกังวลต่อการเพิ่มทุนที่อาจจะเกิดขึ้นไปแล้ว (อยู่ระหว่างรอนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น)