นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 65 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน โดยยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ที่สร้างรายได้ประจำ หรือ Recurring Income และมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนทั้งในส่วนของฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ E-Commerce, Game Online ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ในกลุ่มธุรกิจบล็อกเชน (Blockchain)
ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะในธุรกิจด้านเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ ตลอดจนเข้าไปมีส่วนร่วมในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตสูง และกำลังก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนมากขึ้นอีกด้วย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 ได้ลงนามในสัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน จำนวน 3 สัญญา มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 105,163,599.66 บาท ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกับบมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) โดยรายละเอียดสัญญาประกอบด้วย
1.สัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียนในถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน (ฝั่งซ้ายถนนจอมทอง-ถนนอินทรพิทักษ์)
2.สัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียนในถนนรามคำแหง (ถนนเพชรบุรี-ถนนศรีนครินทร์)
3.สัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียนในถนนเจริญราษฎร์ (ถนนพระราม 3-ถนนสาทร) สำหรับโครงการดังกล่าวมีกำหนดงานแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ก.ย.65
"การรับงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นบริษัทฯ ยังคงมีการทยอยรับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 815 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะมีรายได้รองรับการเติบโตในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันยังคงมีแผนเดินหน้าเข้าประมูลงานในปีนี้อีกหลายโครงการทั้งโครงการที่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีและงานโครงสร้างพื้นฐาน ตามการเปิดให้เข้าร่วมประมูลในโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐที่คาดว่าจะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลายในทางที่ดีขึ้น จะเห็นได้จากการที่ภาครัฐและเอกชนเริ่มหันกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น" นายกิตติพันธ์ กล่าว