นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า Beacon VC มีความยินดีร่วมลงทุนครั้งนี้ ในรอบ Pre-Series A สำหรับ บริษัท พรีโมเวิร์ล จำกัด (PRIMO) สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่มีเทคโนโลยีและความชำนาญในด้านการจัดการข้อมูลลูกค้า ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และเชื่อว่า PRIMO จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และจากความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารจะสามารถนำเทคโนโลยีจาก PRIMO มาต่อยอดในธุรกิจเพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ SOSV ซึ่งเป็น 1 ใน VC ระดับ Top 5 ของโลก และ Infinity Technologies VC ที่ลงทุนใน PRIMO รอบ Pre-Seed ก็ได้เข้าร่วมลงทุนในรอบนี้ด้วย
นายธนพงษ์ กล่าวว่า ธุรกิจของ PRIMO มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตเฉลี่ย 2 เท่าทุกปี ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นจาก 18 คน ในปี 62 มาสู่ 108 คนในปี 64 ให้บริการ Omnichannel Marketing Platform แก่ลูกค้าใน 3 อุตสาหกรรม คือ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มธุรกิจการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือประกันประเภทต่างๆ ด้วยจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับ ระบบมีความยืดหยุ่น และเติบโตไปตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้ อีกทั้งยังให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างเชี่ยวชาญกล้าเห็นต่าง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ได้หลากหลาย
ในอนาคต PRIMO ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยให้บริการแก่ลูกค้าปัจจุบันที่ทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ในภูมิภาคนี้โดยใช้ความแข็งแกร่งของเครือข่ายผู้ลงทุน ทั้ง Fuchsia VC และ Beacon VC รวมทั้งการทำการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจต่างๆของ PRIMO เองในการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศในอนาคต
นางสาวนาเดีย สุทธิกุลพานิช Head of Fuchsia Venture Capital (Fuchsia VC) กล่าวว่า ยุคดิจิทัลในปัจจุบันและอนาคต ธุรกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจที่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเปลี่ยนเป็นความเข้าใจในตัวลูกค้าได้ จะมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่สูงกว่าคู่แข่ง ซึ่ง PRIMO มีเครื่องมือในการช่วยธุรกิจในด้านนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้ไปใช้ในด้านการตลาดและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า จึงมองว่า PRIMO จะสามารถเติบโตและมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยธุรกิจไทยให้สามารถปรับตัวในยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น
นายวีร์ สิรสุนทร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRIMO กล่าวว่า Omnichannel Marketing Platform เติบโตอย่างชัดเจนในยุคโควิด-19 ธุรกิจขนาดใหญ่เห็นความสำคัญของเครื่องมือเพื่อใช้ทำการตลาดในรูปแบบ Omnichannel มากขึ้นและยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก ด้วยองค์กรขนาดใหญ่ต่างมองหาแพลตฟอร์มที่จะนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางเพื่อนำมาประมวลผลและสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ อย่างไร้รอยต่อ
ทุกวันนี้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีความสามารถมากขึ้น มีความยืดหยุ่นสูง และติดตั้งได้โดยใช้เวลาอันสั้น ทำให้นักการตลาดมีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคที่เป็น Data Driven นอกจากนี้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีประสิทธิภาพที่สามารถ Engage หรือชวนลูกค้ามามีส่วนร่วมให้ตรงตามจุดประสงค์ของนักการตลาดและตรงตามกลุ่มเป้าหมายได้
PRIMO Omnichannel Marketing Platform วางแผนการใช้เงินลงทุนที่ได้รับจาก Fuchsia VC และ Beacon VC ในรอบ Pre-Series A นี้ใน 3 ด้านด้วยกัน คือ
1. พัฒนาความสามารถของ Omnichannel Marketing Platform ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มความสามารถของ AI ที่อยู่ในระบบ และการเพิ่ม Engagement Mode ต่างๆ ให้มีวิธีการที่จะชวนลูกค้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
2. ขยายธุรกิจและจำนวนทีมงานทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูเก็ตในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนลูกค้าให้ได้มากกว่าเดิม ทั้งทีมพัฒนาธุรกิจ ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีม Software Developer รวมถึงทีม Engineer และทีม Customer Support
3. ลงทุนและทดลองในผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจใหม่ เพื่อให้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีความพร้อมในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลลูกค้าในองค์กรต่างๆ และเป็นสิ่งที่ทุกๆ บริษัทในประเทศไทยต้องมี พร้อมทั้งสนับสนุนให้ทุกองค์กรให้ความสำคัญกับการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า และนำข้อมูลลูกค้าเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ให้ได้อย่างเป็นระบบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า