นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) กล่าวว่า การดำเนินงานของ PSH ตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป จะเน้นการพัฒนาด้านกลยุทธ์การขายและการพัฒนาโครงการต่างๆที่เน้นการสร้างความแตกต่าง หรือการใช้กลยุทธ์ Unique selling point ที่จะสร้างความโดเด่นและมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นๆในตลาดได้ และทำให้พฤกษายังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้บริษัทยังคงปรับพอร์ต ด้วยการมุ่งเน้นลดสต็อก พร้อมกับการเปิดโครงการใหม่เพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้า Real demand ที่เป็นบ้านระดับบนมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นที่ดี ทำให้บริษัสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 30% ได้ต่อเนื่อง พร้อมกับการนำที่ดินที่บริษัทมีอยู่ 150 แปลง ทยอยนำมาพัฒนาเป็นโครงการใหม่เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่กลับมาเติบโต
ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นการสร้าง Synergy ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลวิมุต ในการเปิดให้บริการศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยในโครงการของพฤกษา เพื่อเป็นการเสริมงานด้านบริการให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นบริการใหม่ที่พฤกษาพัฒนาขึ้นมา เพื่อทำให้ลูกบ้านของพฤกษามีความสะดวกในเรื่องการดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย และเป็นการสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทได้เพิ่มเติม
นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดตั้ง Corporate Venture Fund (CVC) โดยวางงบลงทุนในช่วง 3 ปี ไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท เพื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเน้นไปที่การลงทุนด้านเทคโนโลยีตามเทรนด์โลกอนาคตในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุน การร่วมเป็นพันธมิตร และการทำ Outside-in Innovation โดยมุ่งเน้นใน 2 ด้านที่จะมาสนับสนุนธุรกิจหลัก ได้แก่ PropTech เช่น โซลูชั่นที่มุ่งส่งเสริมการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า การขายและการตลาดดิจิทัล Smart Home IOT Senior Living หรือ Nursing Home เป็นต้น และ Health Tech ซึ่งมุ่งเน้นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานธุรกิจสุขภาพ (Healthcare Supply Chain) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เป็นต้น
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจ Clinical Laboratories, Digital Heath และ Genomic Labs ที่สิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการจัด Bootcamp เพื่อคัดเลือกทีม External Venture Building จากทีมที่สมัครเข้ามามากกว่า 100 ทีม และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงทุนสตาร์ทอัพในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนในเดือนมี.ค.นี้
"ทั้งหมดนี้จะเป็นการต่อห่วงโซ่ธุรกิจของพฤกษา โฮลดิ้ง ให้แข็งแกร่งขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างองค์กร และ Innovation Technology ของบริษัท Startup ได้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ และนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาต่อยอดกับธุรกิจหลักของพฤกษา โฮลดิ้ง" นายอุเทน กล่าว
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) บริษัทในเครือ PSH เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 65 ไว้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 23% จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 2.54 หมื่นล้านบาท โดยที่บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 65 ไว้จำนวน 31 โครงการ มูลค่ารวม 1.63 หมื่นล้านบาท โดยที่ยังเน้นการเปิดโครงการแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากยังเป็นตลาดที่คนยังมีความสนใจเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยค่อนข้างมาก โดยจะมีการเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ 22 โครงการ และบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในปี 65 จะเปิดเพียง 3 โครงการ
การเปิดโครงการแนวราบในปีนี้จะเน้นไปที่กลุ่มระดับบนมากขึ้น โดยที่ทาวน์เฮาส์ที่จะมาเปิดมากขึ้นเป็นแบรนด์ PATIO ระดับราคา 4-5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่เริ่มมีรายได้ในระดับที่สูง ซึ่งมีความต้องการทาวน์เฮาส์ที่เดินทางสะดวกและสามารถนำมาทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ และบ้านเดี่ยวจะเปิดแบรนด์ The Palm ระดับราคา 10 ล้านบาท ออกมามากขึ้น ซึ่งตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ถือว่ายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังมีการซื้อบ้านเดี่ยวต่อเนื่อง
ส่วนคอนโดมิเนียมในปีนี้ 3 โครงการ จะอยู่ในระดับราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย 2-4 ล้านบาท และเป็นการพัฒนาโครงการที่เป็นเฟสขยายของโครงการเดิมที่ขายใกล้หมดแล้วจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Plum รามอนทรา เฟส 2 โครงการ Privacy เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ เฟส 2 และอีก 1 โครงการ บนทำเลที่บริษัทมีที่ดินอยู่แล้วและเลื่อนการเปิดมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ โครงการ Plum บางพลัด
ด้านยอดโอนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 65 ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท ตั้งไว้ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 18% จากปีก่อนที่มี 2.8 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้จะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่เตรียมโอนเข้ามาอีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 2.9 พันล้านบาท ซึ่งจะเข้ามารองรับรายได้ในปีนี้ พร้อมกับการเดินหน้าทยอยขายโครงการพร้อมอยู่ที่อยู่ระหว่างการขาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสต็อกอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท เน้นกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่น พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการซื้อและดึงดูดลูกค้า
ส่วนมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนเข้ามาในปีนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น Backlog จากโครงการแนวราบ 3 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1.1 หมื่นล้านบาท และงบซื้อที่ดินของบริษัทในปีนี้ตั้งไว้ที่ 3-5 พันล้านบาท
น.พ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือ PSH กล่าวว่า รายได้ของธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท โดยรายได้ยังคงมาจากการให้บริการของโรงพยาบาลวิมุตที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนพ.ค. 64 โดยที่รายได้ยอมรับว่ายังมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่บ้างในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลวิมุติเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับโรงพยาบาลได้ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19
ขณะที่ในปี 65 ธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมด้าน Digital Healthtech เช่น แอปพลิเคชั่น Telemedicine และการบริการที่ตอบรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ล่าสุดได้ออกโปรแกรม Total Senior Solution เพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โดยการร่วมกับพฤกษาปรับฟังก์ชั่นบ้านให้เหมาะกับผู้สูงวัย การออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น การติดตั้งราวจับภายในบ้าน ที่นั่งอาบน้ำ พื้นกันกระแทก โดยเริ่มทำแล้วในโครงการของพฤกษา
สำหรับความคืบหน้าโครงการ ViMUT Health Center ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ได้เริ่มดำเนินการแห่งแรกแล้ว ที่โครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน จะเปิดให้บริการในเดือนส.ค. 65 และยังมีแผนที่พัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในโครงการคอนโดมิเนียมของพฤกษาทำเลในเมืองที่มีศักยภาพในอนาคต