นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในงวดปี 64/65 (ต.ค.64-ก.ย. 65) จะปรับตัวดีขึ้น โดยคุณภาพอ้อยปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าปริมาณการหีบน้ำตาลจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 20% จากปีก่อนมีปริมาณการหีบน้ำตาลที่ 4.2 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณฝนมากขึ้น
ทั้งนี้ ปริมาณอ้อยที่มากขึ้นจะช่วยหนุนให้ทุกสายการผลิตของบริษัทมีการเติบโตตามไปด้วย เนื่องจากจะมีปริมาณกากน้ำตาล (โมลาส) ไปใช้ในการผลิตเอทานอลมากขึ้น และได้ชานอ้อยไปป้อนให้โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานผลิตเยื่อกระดาษจากชานอ้อยมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันราคาขายในทุกๆผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย
สำหรับราคาน้ำตาลในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 20 เซนต์ต่อปอนด์ โดยปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ราว 18.3-18.4 เซนต์ต่อปอนด์ จากปีก่อนที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 เซนต์ต่อปอนด์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการหีบอ้อยในประเทศไทยและทวีปอเมริกากลางต่ำกว่าคาด
ในขณะเดียวกันปริมาณน้ำฝนในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ไม่เป็นไปตามที่คาด กดดันให้ปริมาณอ้อยปรับตัวลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประเทศบราซิลมีการปรับสัดส่วนการผลิตไปที่เอทานอลมากขึ้นด้วย
สำหรับช่วงไตมาส 1 งวดปี 64/65 (ต.ค.64-ธ.ค.64) บริษัทมีค่าใช้จ่ายการขายปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก โดยเป็นผลมาจากเป็นช่วงของการหีบอ้อย และการผลิตน้ำตาล ซึ่งมีหลายๆส่วนที่อยู่ในกระบวนการการผลิตอยู่ ประกับราคาอ้อยเบื้องต้นสูงขึ้นกว่าปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามต้นทุนดังกล่าวจะถูกเฉลี่ยไปในไตรมาสต่างๆ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ต้นทุนเฉลี่ยปีนี้ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก