ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 6.27 จุดหลังรู้ผลตัดสินคดี PTT คาดบ่ายทิศทางเดียวกับภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 14, 2007 12:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 839.36 จุด เพิ่มขึ้น 6.27 จุด(+0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 10,669 ล้านบาท 
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 843.99 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 834.12 จุด
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและกลยุทธ์ สถาบันวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้หุ้นไทยบวกอยู่ตลาดเดียว ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวลดลงเนื่องจากแรงขายทำกำไรปลายปีเพิ่มสภาพคล่องยังอยู่ในตลาด แต่ช่วงสั้นหุ้นไทยมีเรื่องของกรณี บมจ.ปตท.(PTT) ตลาดกำลังตอบสนองในเชิงบวกขึ้นมาจึงมีการดีดขึ้นมาทำให้ดัชนีขึ้นไปสูงสุดที่ 843 จุด เป็นการสวนตลาดภูมิภาคถือว่าวันนี้หุ้นไทยรับรู้ปัจจัยภายในคือเรื่องของ PTT เรื่องเดียว
ทิศทางช่วงบ่ายคิดว่ากรณีของ PTT หลังจากที่จบไปแล้วตลาดหุ้นไทยก็น่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกับภูมิภาคคือมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงได้ ถ้าดัชนีขึ้นมาก็แนะนำให้ขายทำกำไรเพราะแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงตามตลาดภูมิภาคภายใต้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงอยู่กับตลาดไปอีกประมาณ 1-2 วัน
"ถ้าผลของ PTT ออกแล้วมี sell on fact ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แนะนักลงทุนระยะสั้นให้ wait and see ถ้ามีกำไรให้ take profit ในกรณีของ PTT ก็จะเป็นแค่วันเดียจากนั้นตลาดก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคซึ่งเป็น trend ที่ใหญ่กว่า" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ เรื่องของการ delist จบไปแล้วก็เท่ากับบริษัทคงสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียนไว้ก็ถือว่าไม่ใช่ข่าวดีและไม่ใช่ข่าวร้ายเพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่แล้ว ประเด็นที่ 2 เป็นเรื่องของสินทรัพย์ที่จะต้องโอนคืนให้คลังบางส่วนตามที่ศาลตัดสินซึ่งก็อยู่ที่ตลาดจะมองว่าจะโอนไปเท่าไร
ส่วนที่กังวลของตลาดอยู่ที่ผลกำไรของตัวบริษัทว่าถ้าโอนสินทรัพย์ไปแล้วจะกระทบกำไรสุทธิเท่าไรมูลค่าหุ้นก็จะลดลงเท่านั้นแต่ถ้าโอนสินทรัพย์ไปแล้วไม่กระทบต่อกำไรสุทธิก็ไม่เป็นไร เพราะฉะนั้นอยู่ที่มุมมองของตลาดจากนี้ไป
"แน่นอนที่สุดว่าการโอนสินทรัพย์ตรงนั้นอยู่ที่การตีความมูลค่าของหุ้น PTT ถ้ามีการโอนสินทรัพย์ไปแล้วจะทำให้ผลกำไรหายไปเท่าไรถือเป็นปัจจัยลบในช่วงสั้น ถ้าปลด H ก็เป็นปัจจัยลบ" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,236.93 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,079.22 ล้านบาท ปิดที่ 424.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 608.94 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 584.86 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 443.45 ล้านบาท ปิดที่ 87.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ