นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันว่าเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ในจ.ระยอง จะไม่กระทบต่อกำลังการกลั่นของบริษัทฯ โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 1.6-1.65 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นจุดที่กลั่นได้กำไรสูงสุด
ทั้งนี้ การดำนินงานในปัจจุบันบริษัทได้ตั้งคณะทำงาน 4 คณะ ทั้งตัวแทนจาก SPRC, ตัวแทนจากหน่วยงานราชการ และผู้เชี่ยวชาญภายในและภายนอกประเทศ เพื่อสืบค้นหาข้อเท็จจริง และสาเหตุของการรั่วไหล พิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์และกระบวนการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในแต่ละกลุ่ม รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบต่างๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัย
และในด้านการเงิน บริษัทจะรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์นี้ในส่วนแรกจำนวน 5 ล้านเหรียญฯ หรือเทียบเท่า 162 ล้านบาท และจะยังมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่จะจ่ายเป็นเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบด้วย จะถูกบันทึกทางบัญชีเข้ามาในไตรมาส 1/65
SPRC มีประกันที่ครอบคลุมความเสียหายหลักๆ คือ 1.ประกันคุ้มครองทรัพย์สิน และการหยุดชะงักของธุรกิจ โดยมีทุนประกันอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญฯ แบ่งเป็น ส่วนที่เป็นความรับผิดชอบส่วนแรก หรือ deductible ราว 20 ล้านเหรียญฯ 2. ประกันความรับผิดต่อบุคคลที่ 3 (Third Party Liability) จะมีทนประกันอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญฯ โดยจะมีส่วนความรับผิดชอบส่วนแรกอยู่ที่ 1 ล้านเหรียญฯ
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดน้ำมัน (Oil Market Outlook) ปีนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาก โดยบางช่วงก็ปรับตัวขึ้นแตะ 100 เหรียญฯ/บาร์เรล จากความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกกลับมาเพิ่มสูงขึ้นราว 4 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 101 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่ากลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ค่อนข้างแพง ขณะที่ในฝั่งของซัพพลายคาดว่าปีนี้จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 5.5 ล้านบาร์เรล/วัน หรือมาอยู่ที่ 102 ล้านบาร์เรล/วัน จากกลุ่มโอเปกพลัส ที่ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรล/วัน รวมถึงตลาดน้ำมันเริ่มมีความสมดุลมากขึ้นในฝั่งของดีมานด์และซัพพลาย คาดจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2/65
ด้าน GLOBAL PRODUCT INVENTORIES ก็อยู่ในจุดที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง และสภาพอากาศที่หนาวยาวนานกว่าปกติ รวมถึงราคาก๊าซธรรมชาติที่ค่อนข้างแพง ทำให้มีการมาใช้น้ำมันมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทคาดค่าการกลั่น GRM ในครึ่งปีแรกยังอยู่ในระดับที่ดี หรือราว 5-7 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากเป็นฤดูกาลของการซ่อมบำรุงโรงกลั่นเพื่อรองรับช่วงพีคซีซั่นในช่วงปลายไตรมาส 2/65 ถึงไตรมาส 3/65 และการส่งออกที่น้อยลงของประเทศจีน รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทฯ วางงบลงทุนปกติปีนี้ไว้ที่ 30 ล้านเหรียญฯ ใช้ปรับปรุงดูแลระบบต่างๆ ทั้งความปลอดภัย, ความเชื่อถือได้ และแสวงหาการลงทุนที่เพิ่มกำไร