นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า กลุ่ม GUNKUL เล็งเห็นการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต จึงวางงบลงทุนใน 3 ปี (65-67) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 7,000-8,000 ต่อปี โดยแบ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อซื้อโรงไฟฟ้าขนาด 400-500 เมกะวัตต์ ลงทุนในธุรกิจกัญชง 2,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจงานก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้า (Built-to-Suit) จำนวน 10 แห่ง ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเติบโตของเครือบริษัท โดยกลุ่มบริษัท วางเป้าหมายการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 20% ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 65 กลุ่มบริษัทยังคงเร่งผลักดันการเติบโตธุรกิจทุกภาคส่วน โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งคิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตในมือรวมทั้งสิ้น 642 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 700 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 66
ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 21.41% ของรายได้รวม ปัจจุบันมีงานในมือ(Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้รายได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งปีนี้บริษัทมีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทมีโอกาสได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด
ขณะที่มีแผนจะนำ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL และถือหุ้นใน บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) เข้าจดทะบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2565
ส่วนธุรกิจกัญชง-กัญชา การเพาะปลูกและโรงสกัดยังดำเนินการได้ตามแผน ซึ่งประมาณต้นเดือนเมษายนนี้ บริษัทจะเตรียมเปิดคลินิกแพทย์แผนไทยเพื่อให้บริการลูกค้า และจำหน่ายผลิตภัณ์กัญชง กัญชาปลายน้ำ ครบวงจร ณ อาคาร Pearl Bangkok ชั้น 2 ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และเข้ารับบริการได้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2565
ด้านธุรกิจ "โกดังไฟฟ้าดอทคอม" ตลาดออนไลน์ของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์ร่วมมือกันระหว่าง GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของ GUNKUL กับ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ด้วยแนวคิด Add Energy To Cart จากการเปิดตัวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน มียอดขายเป็นที่น่าพอใจและคาดว่าจะเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ขณะเดียวกัน กลุ่ม GUNKUL ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจโดยร่วมมือกับ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินกิจการด้านพลังงานทดแทน/พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรรภายใต้บมจ. บริทาเนีย (BRI) เฟสแรกจะเริ่มติดตั้งโซลาร์รูฟและนำร่องสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าระยะยาว หรือ Private PPA กับพื้นที่ส่วนกลางโครงการ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5 และโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และบมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ตั้งบริษัทร่วมทุน ธุรกิจ Solar Rooftop-สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station)-กัญชง กัญชาเพื่อสุขภาพ-จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น เป็นการผสมผสานมิติเชิงพาณิชย์เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเดิม ซึ่งจะทำให้พลังงานจับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้วยการทำธุรกิจ EV Charging Station ตอบรับกับวิสัยทัศน์ Zero-Carbon Ecosystem
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 64 ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่มีกำไรสุทธิ 2,229.27 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9,868.13 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทมีกำไรในส่วนกำไรปกติของธุรกิจ (ไม่มีรายการจำหน่ายเงินลงทุน) จำนวน 2,251.52 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนแสดงเพียง 1,188.42 ล้านบาท ถือว่ากำไรปกติของธุรกิจเติบโตขึ้น 90% โดยหากนับรวมกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนจะแสดงจำนวน 3,425 ล้านบาท
"ในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายทั่วโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งการดำรงชีวิตและการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากต้องเผชิญกับสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการ Transform องค์กร ไม่ว่าจะเป็นการปรับกระบวนการทำงาน การบริหารจัดการธุรกิจ พร้อมทั้งคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทำให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 64 สามารถขับเคลื่อนและเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้" นายสมบูรณ์ กล่าว