ตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้าพุ่งกว่า 13 จุด รีบาวด์ตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ดีดขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัว หลังจากวานนี้สถานการณ์รัสเซียโจมตียูเครนกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงไปแรง โดยตลาดบ้านเรารับแรงซื้อกลับหุ้นบิ๊กแคปทั้งกลุ่มแบงก์ กลุ่มพลังงาน และหุ้นที่ผลประกอบการปี 64 ออกมาดี
เมื่อเวลา 9.58 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,676.12 จุด เพิ่มขึ้น 13.40 จุด (+0.81%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.14 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,678.25 จุด เพิ่มขึ้น 15.53 จุด (+0.93%)
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยโดยรวมฟื้นตัวสอดคล้องทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก หลังความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความชัดเจนว่าไม่น่าจะมีการตอบโต้จากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรไม่รุนแรง เชื่อว่าจะกระทบเศรษฐกิจรัสเซียและยุโรปไม่มากนัก ตลาดฯจึงคลายกังวลลงไปบ้าง
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้น เพราะคาดว่าการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยขณะนี้กลับมาคาดว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.25% โดยก่อนหน้านักเศรษฐศาตร์ 80-90% คาดว่าจะปรับขึ้น 0.50% ขณะนี้ลดลงมาเหลือ 40-50% แล้ว
นายกิจพล กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลง แนะหุ้นเกี่ยวกับการบริโภค รวมถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์ธีมเปิดเมือง โดยหุ้นขนาดกลางและเล็กมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แต่งบออกมาดี มองว่าตลาดน่าจะกลับมาดูเรื่องผลประกอบการ และสถานการณ์ภาพรวม คาดว่าไม่น่าจะมี surprise ทางลบ
พร้อมให้แนวรับ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญที่ 1,660 จุด แนวต้านที่ 1,680, 1,700 จุด