นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดเบี้ยประกันรวมปี 2565 ไว้ที่ 19,011 ล้านบาท โดยบริษัทเดินหน้าผนึกพันธมิตรบริษัทประกันภัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15 ผลิตภัณฑ์ประกัน บุกชิงตลาดทุก segment พร้อมขยายช่องทางการขายเพิ่มทั้งออนไลน์-ออฟไลน์เต็มรูปแบบ
โดยกลยุทธ์ในการขยายการเติบโตของ TQM ในปี 2565 ได้วางแผนหลักไว้ ได้แก่
- Insurance ecosystem enhancement ยกระดับและขับเคลื่อนงานบริการของ TQM ในธุรกิจใหม่ เช่น บริษัท ทีคิวซี จำกัด ที่ให้บริการด้านบริหารสินไหมประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ แก่บริษัทประกัน และบริษัท อีซี่เลนดิ้ง จำกัด ที่ให้บริการด้านสินเชื่อส่วนบุคคลและการเงิน เพื่อเพิ่มศักยภาพของ TQM และขยายฐานลูกค้า
- Digital strategy implementation เน้นลงทุนในธุรกิจที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีของบริษัทในกลุ่ม เช่น บริษัท ทีคิวดี จำกัด และบริษัท ชัวร์ครับ จำกัด เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างนวัตกรรมและส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการรับบริการด้านประกันภัยให้แก่ลูกค้า TQM
- Product line and channel expansion ร่วมกับพันธมิตรบริษัทประกันภัยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่กว่า 15 ผลิตภัณฑ์ เตรียมออกสู่ตลาดภายในปี 2565 อาทิ ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันบ้าน ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต และอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มครอบคลุมทุกเจนเนอร์เรชั่น พร้อมกับการขยายช่องทางการขายทั้งช่องทางออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม และช่องทางออฟไลน์ที่ใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มการมองเห็นเพื่อให้ลูกค้าเกิดการจดจำและทำให้ TQM กลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจคนไทย
ด้านนายอัญชลิน พรรณนิภา ประธาน TQM กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจ TQM ในปี 64 ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิดแต่ TQM ก็ยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานออกมาได้ดี ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงภัยด้านปัญหาสุขภาพ จึงทำให้ยอดขายประกันสุขภาพของ TQM เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการสั่งซื้อเข้ามาผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ยอดขายจากประกันภัยรถยนต์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทยังคงเป็นไปตามเป้า
ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ เป็นจำนวน 3,273.6 ล้านบาท และรายได้อื่น 153.4 ล้านบาท ภายใต้การบริหารจัดการการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มสูงขึ้น โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 ล้านบาท คิดเป็น 10.5 % ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 891.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189.8 ล้านบาท คิดเป็น 27%
"ในปีที่ผ่านมาหุ้น TQM ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความโดดเด่นของ TQM ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงที่ผ่านมา TQM ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ โดยการถือหุ้นของต่างชาติที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของหุ้น และนำไปสู่การดึงดูดให้นักลงทุนไทยให้ความสนใจมาลงทุนในหุ้น TQM ต่อไป"