ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ทำให้กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 59.99 จุด หรือ 0.45% แตะระดับ 13,371.72 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 11.42 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 1,481.14 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 7.17 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 2,660.96 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 4.25 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวานนี้ที่ 3.43 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนกว่า 2 ต่อ 1
นายโรเบิร์ท เจิร์คส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทคอลลินส์ สจ๊วตกล่าวว่า นักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 11 ธ.ค.นี้ หลังจากเบอร์นันเก้กล่าวว่า ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ทรุดตัวลงอย่างหนักอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างรุนแรง ซึ่งคณะกรรมการเฟดจำเป็นต้องตื่นตัวและใช้นโยบายด้วยความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ" เบอร์นันเก้กล่าว
การแสดงความคิดห็นของเบอร์นันเก้สอดคล้องกับที่นายโดนัลด์ คอห์น รองประธานเฟดกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภาวะผันผวนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น และอาจทำให้สถาบันการเงินกำหนดเงื่อนไขการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้นต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในสหรัฐ
นักลงทุนให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยมากขึ้น เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนต.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 4 เดือน
ทั้งนี้ หุ้นเดลล์ปิดร่วงลง 12.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น รูดลง 6.8% เนื่องจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ แสดงความคิดเห็นในเชิงลบต่อกิจการของรีเสริ์ช อิน โมชั่น
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวคาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีหน้าของสหรัฐจะขยายตัวในอัตรา 2.7% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3.1%
โดยหุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล พุ่งขึ้น 16.3% หุ้นวอชิงตัน มิวช่วล ดีดขึ้น 8.3% หุ้นเฟรดดี แมค บวกขึ้น 18.8% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปขยับขึ้น 3.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--