นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ครอบคลุมทั้งธุรกิจเดิม, พลังงานสะอาด, นอนออยล์, Well-being, โลจิสติกส์, บริการทางการเงิน เป็นต้น
โดยส่วนหนึ่งที่รองรับการให้บริการทางการเงิน หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตให้บริการ e-Money, รับชำระเงิน, โอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ และ ตัวแทนให้บริการผู้ออกบัตร ซึ่งจะอยู่ภายใต้ Max Card รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและการออกเหรียญดิจิทัล (Token) เพื่อเชื่อมโยงบริการของกลุ่ม PTG
นอกจากนั้น PTG ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้
นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า ทิศทางผลประกอบการของบริษัทในปี 65 เชื่อว่าจะดีขึ้นจากปีก่อน หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้การเดินทางกลับมาเพิ่มขึ้นมาก แม้ว่านโยบายด้านพลังงานของทางการที่มีการอุดหนุนราคาดีเซล ในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้การบริหารจัดการค่าการตลาดน้ำมันทำได้ยาก บริษัทจึงจะเดินหน้าขยายธุรกิจนอนออยล์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการในระยะยาว
ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนราว 500 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้ขยายสถานีบริการน้ำมันและก๊าซ LPG อย่างต่อเนื่องอีก 80-120 สาขา รวมทั้งขยายการติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ในปั๊มอย่างต่อเนื่องอีก 60 สาขา ซึ่งจะมีการทยอยลงทุนตั้งแต่ไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2 ตามกระแสเงินสดในมือและสถานการณ์แวดล้อม รวมทั้งการเพิ่มจุดติดตั้ง EV Charging Station ในปั๊มน้ำมันเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุก 200 กิโลเมตรทั่วประเทศ หรือ 35 สาขาในเปสแรก พร้อมทั้งขยายร้านอาการและเครื่องดื่มในเครืออย่างต่อเนื่องด้วย
นอกจากนั้น ยังศึกษาเพิ่มการลงทุนในรูปแบบ Max Park ซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันบวกกับคอมมูนิตี้มอลล์ หลังจากที่ทดลองเปิดสาขาแรกที่ศาลายาไปแล้วในเดือนนี้ เพื่อเพิ่มบทบาทของกลุ่มนอนออยล์ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 4% ของรายได้รวม แต่สัดส่วนกำไรอยู่ที่ราว 15% ของกำไรรวมของกลุ่ม PTG เนื่องจากให้อัตรากำไร (Margin) ที่ดีกว่าการขายน้ำมัน
พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจปั๊มน้ำมันและนอนออยล์ในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มจากลาวและกัมพูชา โดยเฉพาะลาว มองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะมีความใกล้ชิดกับไทยค่อนข้างมาก วัฒนธรรมและภาษา รวมถึงรสนิยมใกล้เคียงกัน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปเปิดปั๊มน้ำมันและร้านกาแฟก่อน