TNDT ตั้งเป้ารายได้ปี 51 โต 30% จาก 200 ลบ.ปีนี้ ตามอุตสาหกรรมพลังงาน

          นายสมอุ้ย ตั้งจิตต์ถาวรกุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ที่ 250-280 ล้านบาท หรือโต 30% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีที่มีอัตราการขยายตัว 
          ประกอบกับการที่บริษัทมีงานในมือและงานใหม่ของปีหน้าที่จะทยอยรับรู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่มีระยะเวลานาน
          ในปีหน้า บริษัทมีแผนจะซื้อเครื่องสแกนแนวเชื่อมต่อท่อ (Phaedarray) ซึ่งจะเป็นการนำเข้าจากประเทศแคนาดา ราคาเครื่องละ 4 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งหมด 30-40 ล้านบาท
          นายสมอุ้ย กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทจะหันมารับงานการซ่อมบำรุงรักษามากขึ้นเป็น 20-25% จาก 10% ในปัจจุบันซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น Gross Profit (GP) ในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% จากปีนี้ที่คาดว่า GP อยู่ที่ 34-35% 
          อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเริ่มรับงานการบำรุงรักษาในตลาดต่างประเทศเพิ่มด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาในหลายประเทศ เช่น บรูไน บังคลาเทศ ซึ่งบังคลาเทศมีความสนใจแต่ติดปัญหาการเมืองภายในประเทศ จึงทำให้ชะลอไปก่อน แต่เชื่อว่าหลังการเมืองนิ่งบริษัทจะเข้าไปดิวต่อ เป็นงานท่อก๊าซ
          จากการที่บริษัทเข้ารับงานบำรุงรักษาในต่างประเทศมากขึ้น จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศปีหน้าเพิ่มเป็น 4-5%จาก 2% ในปีนี้ ขณะเดียวกันงานบำรุงรักษาทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีมาร์จิ้นสูง
          นายสมอุ้ย กล่าวต่อว่า บริษัทคาดว่าจะได้รับการต่อสัญญาในการตรวจสอบหลุมขุดเจาะน้ำมันของ ปตท.สผ.สยาม ในระยะเวลา 4 ปีๆละ 10 ล้านบาท รวม 30 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปและเซ็นสัญญาในวันจันทร์ที่ 17 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม จะมีการเจรจาขอเพิ่มราคาค่าตรวจสอบอีก 5-10% จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีงานต่อสัญญาของ บมจ. ปตท.สผ. (PTTEP) มูลค่า 12 ล้านบาท จะรู้ผลไตรมาส 1 ปี 51 นอกจากนี้บริและยังมีโครงการร่วมรับงานกับ PTTEP ในประเทศบาห์เรนและโอมาน,จะเข้าไปรับงานของ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ในการตรวจสอบแบบไม่ทำลายมูลค่า 40 ล้านบาท เป็นต้น
          ใน่วนของงานปิโตรเคมี บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานผลิตออยล์แก๊สให้กับประเทศออสเตรเลีย มูลค่า 10 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานและดำเนินการผลิตในช่วงกลางปี 51 
          ส่วนงานก่อสร้าง ตอนนี้ได้งานก่อสร้างสนามบินในประเทศกาต้าร์ ตอนนี้อยู่ระหว่างต่อรองราคา
          "เชื่อว่าการเติบโตของบริษํทยังเติบต่อเนื่องจากความต้องการพลังงาน และการที่บริษัทหันมาเพิ่มการรับงานบำรุงรักษาซึ่งมีมาร์จิ้น 100% และยังมีอีกหลายรายติดต่อเข้ามา ทำให้มองว่าในปีหน้าการเติบโตของบริษัทจะโดดเด่น ขณะที่ตอนนี้บริษัทพยายามเพิ่มบุคลากรเพื่อรองรับงานที่มากขึ้น"นายสมอุ้ย กล่าว