สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้นับ 1 ข้อมูลไฟลิ่ง(Filing) ของบมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย)เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2550
เอสโซ่ฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO) และจะมีกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัทฯจะนำหุ้นสามัญเดิมของบริษัทมาเสนอขายในครั้งนี้ด้วย เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อชำระหนี้คงค้างต่าง ๆ โดยตั้งบล.ภัทร(PHATRA) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บมจ. เอสโซ่(ประเทศไทย)เป็นผู้ประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจร(integrated)รวมทั้งการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งบริษัทฯและบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้อง ประกอบธุรกิจในประเทศมากว่า 100 ปี
บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น(Exxon Mobil Corporation)ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดรวม ณ วันที่ 30 กํนยายน 2550 เกินกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้บริษัทอื่น ๆ ในเครือเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น จะยังคงถือหุ้นสามัญของบริษัทรวมกันในสัดส่วนประมาณ 67.5%(บนสมมติฐานว่าจะไม่มีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน)
บริษัทฯมีทุนชำระแล้วจำนวน 12,877.22 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.9338 บาท และงวด 9 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 มีกำไรสุทธิ 3,543 ล้านบาท
ณ 11 ธันวาคม 2550 บริษัทฯมีผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 15 ราย โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บริษัท เอ็กซอน โมบิลอินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง อิงค์ ถือหุ้น 2,264,499,994 หุ้นหรือคิดเป็น 86.77% รองลงมาเป็นกระทรวงการคลัง ถือหุ้น 326,250,000 หุ้นหรือคิดเป็น 12.50%
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--